Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

จังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมประชุมทางไกล กับนายกรัฐมนตรีเพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ กำชับ ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมรับมือฝนตกหนัก 12 – 16 ธันวาคม พร้อมสั่งการ เร่งเบิกจ่ายเงิยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเร็วที่สุด

 
วันที่ 9 ธันวาคม 2567
นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายบุญเรือง หลงละวาด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ และการให้ความช่วยเหลือ ผ่านระบบประชุมทางไกล VCS จากทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนผู้บริหารจากส่วนกลาง ร่วมประชุม เพื่อมอบนโยบายและข้อสั่งการในการรับมือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ หลังกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 12 – 16 ธันวาคม 2567 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในหลายจังหวัดภาคใต้โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออกและภาคใต้ตอนล่าง
โดยที่ประชุมได้ให้ 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และจังหวัดนราธิวาส ได้รายงานสถานการณ์ล่าสุด ผลกระทบกับประชาชน และการให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยในระลอกแรก ซึ่งภาพรวมทุกหน่วยงาน ได้บูรณาการกำลัง ร่วมกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ให้การช่วยเหลือประชาชนบรรเทาความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ และยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ มั้งถุงยังชีพพระราชทาน โรงครัวพระราชทาน ซึ่งการช่วยเหลือจะให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยด้านชีวิตเป็นลำดับแรก มีการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย พร้อมทั้ง มีหน่วยแพทย์บริการดูแลสุขภาพ ควบคู่กับการเร่งฟื้นฟูหลังน้ำลด
ด้านนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำ เรื่องการเบิกจ่ายเงินเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบครัวเรือนละ 9,000 บาท โดยขอให้เร่งสำรวจและนำเสนอผ่านกระบวนการคัดกรอง ระดับอำเภอและระดับจังหวัด เพื่อจ่ายเงินให้ถึงมือประชาชนเร็วที่สุด และหากติดขัดเรื่องการโอนเงิน ผ่านระบบพร้อมเพย์ ขอให้รีบส่งข้อมูลมายังส่วนกลาง เพื่อหาแนวทางแก้ไขโดยด่วน ขณะที่ เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งแต่ละจังหวัดมีอยู่ 20 ล้านบาท และมีมติ ครม.เพิ่มให้บางจังหวัดอีก 50 ล้านบาท เป็น 70 ล้านบาท ขอให้แต่ละจังหวัด ใช้จ่ายในการช่วยเหลือประชาชนอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และต้องถูกต้องตามระเบียบราชการ พร้อมทั้งฝากความห่วงใยถึงประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้นำในการแก้ปัญหาให้ประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาทำได้ดีมากแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้ และหากต้องการการสนับสนุน เช่น เครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ ยานพาหนะทั้งทางบกทางน้ำ ขอให้รีบแจ้งมายังส่วนกลาง เพื่อจัดส่ง เคลื่อนย้าย จากพื้นที่อื่นๆเข้าไปช่วย
ขณะที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี แม้ยังไม่มีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ แต่ได้มีข้อสั่งการให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 – 16 ธันวาคม 2567 พร้อมทั้ง เร่งเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 100 ครัวเรือนให้เร็วที่สุด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และเน้นย้ำให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์สภาพอากาศ ปริมาณฝน สถานการณ์น้ำ และประเมินความเสี่ยงการเกิดอุทกภัย น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปด้วยความรวดเร็วทันต่อสถานการณ์

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ ๘/๒๕๖๗


วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ ห้องประชุมสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายสุคนธ์ หนูภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ ๘/๒๕๖๗ เพื่อพิจารณาการแต่งตั้งคณะกรรมการรับนักเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษา แผนการจัดการศึกษาโดยครอบครัว และพิจารณารายชื่อนักเรียนที่ขอรับทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ ๒ รุ่นที่ ๘ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามระเบียบกฎหมายกำหนด

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการขออนุญาตตามมาตรา ๙ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี


วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ ห้องประชุม สำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายสุคนธ์ หนูภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการขออนุญาตตามมาตรา ๙ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อพิจารณาการขออนุญาตใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ กรณี กรมการปกครองขออนุญาตใช้ประโยชนในที่ดินสาธารณประโยชน์ แปลง "ยางหลาโอน" ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงเลขที่ สฏ ๐๔๐๙ หมู่ที่ ๑ ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นที่ก่อสร้างกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อที่ ๔๙-๒-๙๙ ไร่ ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาต ตามมาตรา ๙ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.๒๕๔๓

หน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่ายจังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตภายใต้แนวคิด “FIGHT AGAINST CORRUPTION สู้ให้หยุด หยุดการโกง”

 

วันที่ 8 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น.

นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย) จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่จัดขึ้น ณ ห้องประชุมเมืองคนดี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคีเครือข่าย และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนเริ่มกิจกรรม ได้มีการร่วมประชุมคณะกรรมการผลักดันการดำเนินงานตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 4/2567

จากนั้นได้รับชมการนำเสนอวิดีทัศน์กิจกรรมวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย) ภายใต้แนวคิด “FIGHT AGAINST CORRUPTION สู้ให้หยุด หยุดการโกง” และร่วมประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการทุจริตร่วมกับส่วนกลาง โดยมีชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ผ่านระบบ VDO CONFERENCE เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนไม่ทนต่อการทุจริต

สำหรับวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล เกิดขึ้นหลังจากที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ (UN) มีมติเห็นชอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ.2003 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2546 จากนั้นประเทศภาคีสมาชิก UN 191 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ได้เข้าร่วมลงนามในอนุสัญญาฯ ระหว่างวันที่ 9 -11 ธันวาคม 2546 ณ เมืองเมอริด้า ประเทศเม็กซิโก UN จึงประกาศให้วันที่ 9 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล

ทั้งนี้จากผลดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์ปัญหาคอร์รัปชันของประเทศต่างๆ ทั่วโลก พบว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ทุกประเทศต้องเร่งแก้ไข ก่อนปัญหาอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ที่สำคัญมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยการแสดงพลังและเจตนารมณ์ให้ทั่วโลกได้เห็น.

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!