Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเชิญไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28

 

วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.09 น. ที่วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเชิญไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทุกหมู่เหล่าและประชาชนในพื้นที่ ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
พิธีประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถวายราชสักการะ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วจุดธูปเทียน บูชา โปรยข้าวตอกดอกไม้ ที่โต๊ะบวงสรวงเพื่อประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ พราหมณ์บัณฑิตอ่านโองการบวงสรวงบูชาเทพยดา เทพารักษ์ ผู้ดูแลรักษาสถานที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ และผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี อ่านคาถาพลีกรรมตักน้ำ
จากนั้นในเวลา 14.49 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำพิธีตักน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หน้าวิหารหลวงวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ใส่ขันสาคร จำนวน 19 ครั้ง แล้วปิดฝาขันสาครห่อด้วยผ้าขาว ผูกริบบิ้นสีขาว แล้วเชิญขันสาครและที่ตักน้ำไปยังวิหารหลวง เพื่อเตรียมประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ตามฤกษ์ต่อไป
สำหรับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร อยู่ในบริเวณพุทธาวาส ข้างพระวิหารเก่า ที่สร้างคู่มากับองค์พระบรมธาตุ สันนิษฐานว่า เป็นบ่อน้ำสำหรับพิธีกรรมทางศาสนามาแต่โบราณ และเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๓ ได้มีการนำน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ร่วมพิธีพระบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเป็นสถานที่เคยใช้ประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ และเพื่อเข้าร่วมในพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ และเมื่อปี 2562 ได้จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามโบราณราชประเพณี เพื่อทำน้ำอภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
สำหรับพิธีพลีกรรมตักน้ำเป็นพิธีตักหรือขอแบ่งน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ สำหรับนำไปประกอบพิธีต่างๆ เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยคำว่า “พลีน้ำ” คือการขออนุญาตตักน้ำขึ้นมา แบ่งมาในส่วนน้อย เพื่อทำพิธีขอพรให้เป็นสิริมงคลและนำเข้าไปในวัด โบสถ์ สำคัญในจังหวัดนั้นๆ เพื่อประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2567 และวันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2567 อย่างสมพระเกียรติ จากนั้นจะขบวนอัญเชิญคนโทน้ำพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เข้าไปเก็บรักษาไว้ที่ กระทรวงมหาดไทย เพื่อใช้ประกอบพระราชพิธีต่อไป

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ก.ช.ภ.จ.สฎ.) ครั้งที่ 5/2567


วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 เวลา 9.30 น. ณ ห้องประชุมนางยวน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชั้น 5
นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ก.ช.ภ.จ.สฎ.) ครั้งที่ 5/2567 ซึ่งที่ประชุมพิจารณาให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยด้านพืช(วาตภัย) ในพื้นที่อำเภอพระแสง กรณีพืชตายหรือเสียหายโดยสิ้นเชิง มีราษฎรได้รับผลกระทบ 3 ราย พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 5.5 ไร่ วงเงินขอรับเงินช่วยเหลือ 22,264 บาท และ พิจารณาให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยด้านพืช(ภัยแล้ง) ในพื้นที่อำเภอบ้านนาสารและอำเภอคีรีรัฐนิคม กรณีพืชตายหรือเสียหายโดยสิ้นเชิง มีราษฎรได้รับผลกระทบ 22 ราย พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 84.13 ไร่ วงเงินขอรับเงินช่วยเหลือ 340,558.24 บาท

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในกิจกรรมเทิดพระเกียรติเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี


วันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ณ ศาลาผู้สูงอายุตำบลเขาพัง หมู่ที่ ๔ บ้านไกรสร ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายสุคนธ์ หนูภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในกิจกรรมเทิดพระเกียรติเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ซึ่งมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้จัดทำแผนออกปฏิบัติงานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ปีงบประมาณ ๒๕๖๗ เพื่อให้การรักษา ป้องกัน ส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดาร ห่างไกลคมนาคม โดยร่วมกับโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โรงพยาบาลบ้านตาขุน ที่ว่าการอำเภอบ้านตาขุน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบ้านตาขุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมดังกล่าว ในวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานีนำข้าราชการและประชาชนร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

 

วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.30 น.

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ประจำปี พ.ศ.2567 โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดขึ้น ณ บริเวณลานเอนกประสงค์ โครงการจุฬาภรณ์พัฒนา 8 ตำบลลำพูน อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตลอดจนเชิดชูพระเกียรติของพระองค์ท่าน โดยมีนางดาเรศ จิตรัตน์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน กลุ่มพลังมวลชน และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียงกัน

ทั้งนี้จากเหตุการณ์อุทกภัยในภาคใต้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2531 ได้ก่อให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอบ้านนาสาร สภาพแวดล้อมถูกทำลายเนื่องจากการพังทลายของหน้าดินในบริเวณยอดเขาและเชิงเขากระแสน้ำได้พัดพานำเอาต้นไม้ หิน ทราย และวัสดุอื่นๆ ไหลมาปะทะบ้านเรือนและทับถมเรือกสวนไร่นาของราษฎรเสียหายเป็นจำนวนมาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีทรงมีพระราชดำริที่จะฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรผู้ประสบอุทกภัยให้มีชีวิตที่ดีขึ้นรวมทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่เดิม เพื่อให้คงอยู่เป็นมรดกตกทอดสู่รุ่นลูกหลานสืบไป จึงเป็นที่มาของโครงการจุฬาภรณ์พัฒนา 8 มาจนถึงทุกวันนี้.

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!