Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในจังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมหารือแก้ไขปัญหาทางลักผ่านในพื้นที่ เพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนน



วันที่ 7 มีนาคม 2567

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมแก้ไขปัญหาทางลักผ่านในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนน และกำหนดรูปแบบการดำเนินงาน รวมทั้งติดตามผลการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจุดตัดทางรถไฟ และพิจารณาทางลักผ่านจุดตัดในเขตพื้นที่ ซึ่งจะต้องกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางลักผ่าน 4 รูปแบบ ให้แล้วเสร็จทุกจุด ภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยเฉพาะทางลักผ่านที่เห็นสมควรยกเลิกเนื่องจากไม่มีความปลอดภัยหรือหมดความจำเป็นในการใช้งาน โดยมีส่วนราชการ ผู้แทนการรถไฟ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฝ่ายปกครองอำเภอ ตลอดจนภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องเมืองคนดี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

สำหรับภาพรวมทางลักผ่านในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีมากสุดในพื้นที่อำเภอพุนพิน รองลงมาอำเภอท่าฉาง บ้านนาเดิม และอำเภอบ้านนาสาร จำแนกประเภทความสำคัญออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 มีความสำคัญหรือมีทางผ่านในระยะ 500 เมตร ที่สามารถใช้แทนกันได้ มีจำนวน 38 แห่ง กลุ่มที่ 2 ทางลักผ่านขนาดใหญ่หรือมีการใช้งานมานานแล้ว และไม่สามารถปิดกั้นได้อย่างแน่นอน จำนวน 23 แห่ง และกลุ่มที่ 3 ทางลักผ่านขนาดปานกลางและมีผู้ใช้เฉพาะกลุ่ม จำนวน 61 แห่ง ซึ่งการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่ผ่านมา ทางจังหวัดฯ ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฯ พร้อมกับจัดเก็บข้อมูลอุบัติเหตุจุดตัดทางรถไฟ มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ ติดตั้งป้านเตือน ลูกระนาด สัญญาณไฟบริเวณทางจุดตัดทางรถไฟกับถนน

นอกจากนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ประสานความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาทางลักผ่านและลดอุบัติเหตุบริเวณจุตัดทางรถไฟกับถนน ตามนโยบายกระทรวงคมนาคมในการแก้ไขปัญหาทางลักผ่านอย่างจริงจัง และให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม.

 

รองผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่หาดแหลมโพธ์ อำเภอไชยา เพื่อศึกษาแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ในการสร้างท่าเทียบเรือเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว

 

วันที่ 7 มี.ค. 67

นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายชวลิต โรจนรัตน์ นายอำเภอไชยา ลงพื้นที่หาดแหลมโพธ์ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อศึกษาแนวทางในการพัฒนาคุณค่าการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ที่สามารถสร้างความแตกต่างสร้างทางเลือกที่หลากหลายด้านการท่องเที่ยวจากศักยภาพของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อศึกษาความเหมาะสมในการพัฒนาท่าเทียบเรือเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวที่หลากหลายของจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่บริเวณแหลมโพธิ์อำเภอไชยา และเพื่อออกแบบรายละเอียดท่าเทียบเรืออาคารประกอบและปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณแหลมโพธิ์ อำเภอไชยา

ด้วยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้พิจารณาแล้วพื้นที่บริเวณหาดแหลมโพธ์ มีความเหมาะสมในการดำเนินโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือ เพื่อยกระดับคุณค่าการท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ราชพัสดุที่เทศบาลตำบลพุมเรียงใช้ประโยชน์ จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีความคิดเห็นว่าประชาชนในพื้นที่ของเทศบาลตำบลพุมเรียง รวมทั้งประชาชนในจังหวัดสุราษฏร์ธานีจังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยวได้รับประโยชน์ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพิ่มมูลค่า และกระจายรายได้อย่างทั่วถึง โดยในพื้นที่ตอนเหนือของจังหวัด ที่มีแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอันทรงคุณค่าและสามารถพัฒนาเชื่อมต่อการท่องเที่ยวทางทะเลที่เป็นการท่องเที่ยวหลักของจังหวัดได้ แต่ในปัจจุบันยั่งไม่มีท่าเทียบเรือที่มีศักยภาพสนับสนุนการท่องเที่ยว จังหวัดสุราษฎร์ธานี เล็งเห็นว่าพื้นที่ราชพัสดุบริเวณแหลมโพธิ์ ในพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลพุมเรียง เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการพัฒนาท่าเทียบเรือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวดังกล่าว ซึ่งกระบวนการในการเตรียมการเบื้องต้น เพื่อประสานขอใช้ที่ดินราชพัสดุ โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างท่าเทียบเรือสาธารณะ จำป็นต้องนี้การตรวจสอบแนวเขตที่ดินราชพัสดุ ที่ต้องใช้เป็นพื้นที่ท่าเรือและพื้นที่อาคารพื้นที่ประกอบท่าเทียบเรือให้ชัดเจน

จังหวัดสุราษฎร์ธานีเตรียมจัดกิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567



วันที่ 7 มีนาคม 2567

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะทำงานโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีส่วนราชการ ผู้แทนฝ่ายสงฆ์ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องเมืองคนดี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยระยะเวลาบรรพชาระหว่างวันที่ 20 เมษายน วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 รวม 17 วัน ณ วัดที่จังหวัดกำหนด ทั้ง 76 จังหวัด สำหรับส่วนกลางจัดพิธีบรรพชา ณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก กรุงเทพมหานคร จำนวนผู้บรรพชาไม่น้อยกว่า 73 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศ ได้แสดงความจงรักภักดี ความกตัญญูกตเวทีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตลอดจนได้รับความรู้ในเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อเป็นการพัฒนาตนเองให้เป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรม และศีลธรรม ตลอดจนบิดามารดาผู้ปกครองและพุทธศาสนิกชน ได้มีโอกาสร่วมบำเพ็ญกุศล ได้เกิดความรัก ความผูกพัน ความใกล้ชิดกับวัดและศาสนา รวมถึงการสร้างความรักและความสามัคคีให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี กำหนดจัดกิจกรรมโครงการดังกล่าว ณ วัดสามัคคีผดุงพันธ์ ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี โดยขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนเด็กและเยาวชน ที่มีความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ โดยพร้อมเพียงกัน โดยมีเป้าหมายผู้บรรพชาไม่น้อยกว่า 73 รูป.

 

รองผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ร่วมพิธีบวงสรวงบูชาพ่อพระใหญ่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดแก้ว เพื่อแกะสลักบานประตูโบสถ์ ถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

 

วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 12.00 น. ณ วัดรัตนาราม (วัดแก้ว)

นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีบวงสรวงบูชาพ่อพระใหญ่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดแก้ว เพื่อแกะสลักบานประตูโบสถ์ ถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯโดยมี เจ้าอาวาสวัดรัตนาราม พระมหาธงชัย วณณวีโร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

โดยวัดรัตนาราม เดิมชื่อ วัดแก้ว เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองไชยา มาตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย ตั้งเมื่อพ.ศ. 1525 มีปูชนียสถานที่สำคัญคู่วัดคือ พระเจดีย์โบราณศิลปะยุคศรีวิชัย มีอายุเก่าแก่ร่วมพันกว่าปี โดยเจดีย์วัดแก้วสร้าง พ.ศ. 1318 โดยพระเจ้าธรรมเสตุ กษัตริย์กรุงศรีวิชัยอุทิศพระโพธิสัตว์ปัทมปาณิ หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ พระศรีอริยเมตไตรย หรือ พระอวโลกิเตศวรหรือเจ้าแม่กวนอิม

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!