บ่ายวันที่ 2 มีนาคม 2567 ที่บริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานปล่อยขบวนรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย เปิดไฟ 100% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม สุราษฎร์ไบค์วีค 2024 ปีแห่งการขับขี่ ท่องเที่ยวปลอดภัย ร่วมใจทำความดี โดยมี นางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี พลตำรวจตรี เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พันตำรวจเอกนิพนธ์ ชาตรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี นายนพดล ศาตราภัย ประธานชมรมบิ๊คไบค์สุราษฎร์ธานี และสมาชิกชมรมบิ๊กไบค์สุราษฎร์ธานี นับร้อยคนร่วมกิจกรรม
กิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อเป้าหมายการรณรงค์และส่งเสริมการขับขี่ตามโครงการขับขี่ปลอดภัยภายใต้กฎจราจร โดยเฉพาะรณรงค์สวมหมวกนิรภัย และเปิดไฟหน้ารถ 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้ง ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยก่อนเริ่มปล่อนขบวนรณรงค์ ผู้สนับสนุนกิจกรรมได้ร่วมกันมอบเสื้อสะท้อนแสงให้กับตำรวจจราจรสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อความปลอดภัย จากนั้น ได้เคลื่อนขบวนรถบิ๊กไบค์ จากบริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านไปยัง หอนาฬิกาสะพานนริศ และ ตามถนนชนเกษมในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ก่อนจะเลี้ยวไปทางถนนเลี่ยงเมือง เพื่อเข้าสู่โรงแรมบรรจงบุรี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน สุราษฎร์ไบค์วีค 2024 ปีแห่งการขับขี่ท่องเที่ยวปลอดภัย ร่วมใจทำความดี ระหว่างวันที่ 1 – 2 มีนาคม 2567
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษร์ธานี เน้นย้ำว่า ปัจจุบันอุบัติเหตุจราจรทางบก ก่อให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับขี่รถจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ประมาทและไม่เคารพกฎจราจร ซึ่งกิจกรรมรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่ดีและจะเป็นแบบอย่างแก่เยาวชน ตลอดจนผู้ใช้รถใช้ถนน ให้มีวินัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้นและยังก่อให้เกิดจิตสำนึกในด้านความปลอดภัย อีกด้วย

วันที่ 2 มีนาคม 2567

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “เนื่องในวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ” 2 มีนาคม 2567 ที่จัดขึ้น ณ อาคารศูนย์กลางการประชุมสัมมนาภาคใต้ตอนบน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อน้อมรำลีกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตร ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็น "พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย" ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทย โดยทรงมีพระปรีชาสามารถด้านช่าง และทรงให้ความสำคัญในการพัฒนาฝีมือแรงงานช่างไทยให้มีความเป็นมาตรฐาน นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้แรงงานตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาตนเองให้มีมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อเข้าสู่กระบวนการจ้างงานและสร้างรายได้ที่เหมาะสม โดยมีนางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร บุคลากรภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้แทนสมาคม องค์กรวิชาชีพ สถานประกอบการ เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงสนพระราชหฤทัยและพระปรีชาสามารถทรงงานด้านต่างๆ หลายด้าน ซึ่งงานช่างเป็นงานด้านหนึ่งที่ทรงมีความสนพระราชหฤทัย มีความถนัด และทรงมีฝีพระหัตถ์เป็นเยี่ยมมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทั้งด้านช่างไม้ ช่างโลหะ อิเล็กทรอนิกส์ หรือแม้แต่ด้านเครื่องยนต์ เรือใบที่ทรงใช้แข่งขันในกีฬาแหลมทอง กังหันน้ำชัยพัฒนา ตลอดจนทรงตั้งโรงเรียนพระดาบสเพื่อสอนวิชาชีพช่างให้แก่เยาวชน รวมทั้งผู้ด้อยโอกาสทั่วไป และเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2513 ทรงเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดงานแนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือช่างของสโมสรโรตารี กรุงเทพใต้ ณ ลุมพินีสถาน ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 เห็นชอบการถวายพระราชสมัญญา "พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย" แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และกำหนดให้วันที่ 2 มีนาคมของทุกปีเป็น "วันพระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทยและวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ"

วันที่ 1 มีนาคม 2567

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานพิธีเปิดงานสรงน้ำ - ปิดทอง รูปหล่อหลวงพ่อกล่อม นันทะ (พระครูวิธูรธรรมสาสน์) ประจำปี 2567 โดยคณะสงฆ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ศิษยานุศิษย์ และประชาชน จัดขึ้น ณ วัดโพธาวาส อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสร้างความสามัคคี ความเข้มแข็ง ร่วมกันส่งเสริม สืบสาน วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชุมชนและท้องถิ่น ให้ดำรงอยู่เป็นมรดกแก่คนรุ่นหลังสืบไป

โดยพระครูวิธูรธรรมสาสน์ หรือ หลวงพ่อกล่อม อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธาวาส ได้อุปสมบทในปี พ.ศ.2413 (อายุ 24 ปี) ณ พัทธสีมาวัดโพธาวาส โดยมีพระครูสุวรรณรังษี (มี) เจ้าอาวาสวัดโพธาวาส และเจ้าคณะเมืองกาญจนดิษฐ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออยู่ในสมณเพศ หลวงพ่อกล่อมเคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างยิ่ง ศึกษาพระปริยัติธรรมและท่องบทสวดมนต์เจ็ดตำนานสิบสองตำนาน มุ่งมั่นปฏิบัติวิปัสสนาธุระ จนเป็นที่เคารพศรัทธาของพระภิกษุ สามเณร และชาวบ้านทั้งหลาย

ต่อมาในปี พ.ศ.2432 พระครูสุวรรณรังษีย้ายไปครองวัดกลาง หลวงพ่อกล่อมจึงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธาวาสสืบแทน ท่านเป็นพระนักพัฒนา ทำนุบำรุงและปฏิสังขรณ์วัดให้เจริญรุ่งเรืองอยู่เสมอ ด้วยคุณงามความดีของหลวงพ่อกล่อม ชาวบ้านจึงมักเรียกชื่อท่านว่า "พ่อท่านกล่อม" ท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2475 สิริอายุ 86 ปี พรรษาที่ 62