วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ผู้แทนหน่วยงาน และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อรับฟังปัญหาความต้องการจากส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่ ตามโครงการบำบัดทุกข์บำรุงสุข เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึก นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีนางสาวศริญดา ปาลคะเชนทร์ นายอำเภอคีรีรัฐนิคม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับและให้ข้อมูลประกอบการลงพื้นที่ในครั้งนี้

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประชุมมอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติราชการแก่นายอำเภอ หัวหน้าหน่วยงาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมรับทราบปัญหาความต้องการ ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอคีรีรัฐนิคม ซึ่งพบว่าปัญหาสำคัญของพื้นที่ ได้แก่ ปัญหาขยะในพื้นที่ตำบลกะเปา ที่ประชาชนหมู่ที่ 1 , 3 , 7 และ10 ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำเน่าเสียและมลพิษทางอากาศ ที่เกิดจากกองขยะขนาดใหญ่ซึ่งถูกนำมาทิ้งไว้โดยหน่วยงานและคนจากต่างพื้นที่เป็นส่วนใหญ่ จนเกิดการสะสมเป็นเวลานาน และอีกปัญหาสำคัญ คือ ปัญหาการทรุดตัวของตลิ่งและการเปลี่ยนเส้นทางน้ำของแม่น้ำพุมดวงและแม่น้ำคลองยัน รวมทั้งสิ้น 7 จุด ในพื้นที่ 4 ตำบล ที่แม่น้ำดังกล่าวไหลผ่าน เนื่องจากริมตลิ่งด้านบนเป็นดินร่วน ด้านล่างเป็นดินทราย จึงส่งผลให้เกิดการกัดเซาะของน้ำที่ไหลเชี่ยว ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน สูญเสียพื้นที่ดินทำกินที่มีเอกสารสิทธิในที่ดิน ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะ ได้รับทราบปัญหาและจะนำไปพิจารณาร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขอย่างยั่งยืนต่อไป.

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567  เวลา 10.30 น.
นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานตรวจสถานที่ และประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทราย ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่3/2567 โดยมีนายสันติ บุญรอด นายอำเภอเคียนซา พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯ ร่วมตรวจสอบ
การตรวจพื้นที่และประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาการขออนุญาตดูดทรายในที่ดินของรัฐ เพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบกิจการค้าหากำไร รายนายกิตติพงศ์ เกียรติกุลพงศ์ ขออนุญาตดูดทรายในแม่น้ำตาปี หมู่ที่ 5 ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 2-1-48ไร่ และ รายนางรัตนา หนูแก้ว ขออนุญาตดูดทรายในแม่น้ำตาปี หมู่ที่ 5 ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 0-1-50 ไร่

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ที่โรงแรมบรรจงบุรี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดกิจกรรม“สานพลังเครือข่าย สร้างความเข้าใจการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 และร่วมพบปะสื่อมวลชน ในกิจกรรม ผู้ว่าฯ พบสื่อมวลชน โดยมี นายณรงค์ หลักกำจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายพลัฏฐ์ นิลเนาวรัตน์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตลอดจน นายศุภพงษ์ เชาวน์แล่น ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 5 สุราษฎร์ธานี ผู้ตรวจการเลือกตั้งจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย สื่อมวลชนทุกแขนง อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านชุมชน นักศึกษา และภาคีเครือข่ายหน่วยงานที่มีความร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
กิจกรรมช่วงแรก เป็นกิจกรรมผู้ว่าฯ พบสื่อมวลชน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวพบปะกับสื่อมวลชน พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงบทบาทและความสำคัญของสื่อมวลชน ที่จะมีหน้าที่สำคัญในการขับเคลื่อนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง รวมถึง ขอความร่วมมือในการขับเคลื่อน 2 นโยบายสำคัญที่กำลังเดินหน้าอยู่ในตอนนี้ คือ การเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลก ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่คณะทำงานกำลังเร่งปักหมุด และเสนอต่อ UNESCO เพื่อพิจารณาขึ้นทะเบียน ซึ่งจะมีผลในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในระยะยาว และนโยบาย การแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทับซ้อน ของพื้นที่อุทยาน พื้นที่ป่า และพื้นที่ของหน่วยงานต่างๆ ลดข้อพิพาทของหน่วยงานรัฐ และลดผลกระทบต่อที่ดินทำกินของราษฎร
จากนั้น เป็นการให้ความรู้ร่วมแลกเปลี่ยนในประเด็นบทบาทหน้าที่ การได้มา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 โดย ว่าที่ร้อยตรี ภาสกร สิริภคยาพร ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ1 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยสื่อมวลชน ในการขยายผล สร้างการมีส่วนร่วม และความเข้าใจที่ถูกต้อง ให้เกิดขึ้นกับประชาชน เนื่องจาก สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบัน จะหมดวาระ ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 และจะต้องเลือกสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ ซึ่งเป็นการเลือกจากประชาชนโดยอ้อม โดยให้ตัวแทนประชาชนที่เป็นผู้สมัครใน 20 กลุ่ม เลือกกันเอง ผ่านมาจากระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ให้ได้ตัวแทน กลุ่มละ 10 คน รวม 200 คน เป็นสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งโอกาสเปิดกว้างให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ที่ผ่านคุณสมบัติ สามารถสมัครได้ พร้อมทั้งอธิบายขั้นตอน ของที่มาและลำดับขั้นตอน ข้อห้าม ที่เกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในปีนี้
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมการสัมมนาเครือข่ายสื่อมวลชนกรมประชาสัมพันธ์ โดยประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้พูดคุย ถึงแนวทางการขับเคลื่อนการทำงาน การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์นโยบายของรัฐบาล ผ่านเครือข่ายสื่อมวลชน ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะกลุ่ม อป.มช. ที่จะมีการพัฒนายกระดับสู่การเป็นเครือข่ายคุณภาพในอนาคต รวมถึง รับฟังความคิดเห็นจากสื่อมวลชน เพื่อนำกลับมาพัฒนา ปรับปรุง การทำงานร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น