วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567

ณ สนามพระกิตติมงคลพิพัฒน์ (หลวงพ่อจ้อย) อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมพิธีปล่อยขบวนแห่ผ้าขึ้นพระธาตุเจดีย์วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยพระครูปริยัติคุณาวุธ รองเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายนัฐพงษ์ เตี่ยมังกรพันธุ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

ประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จัดขึ้นในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นประเพณีทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญประเพณีหนึ่ง ของประชาชนชาวอำเภอดอนสักและประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องด้วยเป็นประเพณีที่ประชาชนร่วมใจกันสักการะพระธาตุเจดีย์ประจำถิ่นอย่างพร้อมเพรียงกัน "พระธาตุเจดีย์" ตั้งอยู่ในวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์เป็นที่ประดิษฐ์สถานพระบรมสารีริกธาตุของ "องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำที่ "พระกิตติมงคลพิพัฒน์" หรือ "หลวงพ่อจ้อย" อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธศาสนิกชน เริ่มดำเนินการจัดสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2526โดย"สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จเป็นองค์ประธานในการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งในปี พ.ศ. 2565"ประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์" ได้ถูกยกระดับให้เป็นงานประเพณีท้องถิ่นของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางพุทธศาสนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในมิติวัฒนธรรมตลอดจนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากโดยใช้ทุนทางวัฒนธรรม ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่าประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระธาตุเจดีย์วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ เป็นประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น ที่พี่น้องชาวอำเภอดอนสัก และชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันอนุรักษ์ และสืบสานกันมาอย่างยาวนานจนมีชื่อเสียงระดับประเทศ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอนุชนรุ่นหลังจะได้ร่วมกันสืบสานประเพณีอันดีงามนี้ไว้ให้คงอยู่สืบไป.

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีสดุดีวีรกรรมพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ครบรอบปีที่ 47 ปี ณ โรงเรียนบ้านท่านหญิงวิภา หมู่ที่ 1 ต.ตะกุกเหนือ  อ.อำเภอวิภาวดี  จ.สุราษฎร์ธานี  

ในการนี้ หม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต  ธิดาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต  ได้เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้พร้อมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน  พ่อค้า ประชาชน  และกลุ่มองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ เข้าร่วมชุมนุมเพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกิจถวายแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต  น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณา เทิดทูนพระเกียรติ  ที่พระองค์ทรงประกอบกรณียกิจ ให้เกิดประโยชน์สุขแก่ส่วนร่วม  บังเกิดผลเพิ่มพูนวัฒนาถาวรแก่ประเทศชาติ

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ประสูติเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2463 มีพระนามเดิมว่า  "หม่อมเจ้าวิภาวดีรังสิต"  เป็นธิดาในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์  และหม่อมเจ้าพระพิมลพรรณรัชนี  ทรงอภิเษกสมรสกับหม่อมเจ้าปียะรังสิต  โอรสองค์ใหญ่ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร  มีธิดาด้วยกัน 2 พระองค์  คือ หม่อมราชวงศ์วิภานันท์รังสิต และหม่อมราชวงศ์ปรียนันทนารังสิต  โดยที่พระองค์ท่านได้ทรงประกอบพระกรณียกิจ อันเป็นคุณประโยชน์แก่มวลประชาชนชาวไทยอย่างอเนกอนันต์  จนกระทั่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2520  ในขณะที่ทรงปฏิบัติภารกิจตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญตำรวจ ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี.

_________

ภาพ/ข่าว - สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

ที่ห้องประชุมสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี (อาคารหลังเก่า) นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 1/2567 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมดังกล่าว เพื่อพิจารณาผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสถานที่กำจัดขยะ ของเทศบาลตำบลบ้านเชี่ยวหลาน อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานีแจ้งว่า ได้รับแจ้งจาก อำเภอคีรีรัฐนิคมว่าประชาชนในพื้นที่ หมู่ที่ 1,3,6,7, และ 10 ตำบลกะเปา อำเภอคีรีรัฐนิคมได้รับความเดือดร้อนจากน้ำเน่าเสีย และมลพิษทางอากาศที่เกิดจากกองขยะขนาดใหญ่ ซึ่งถูกนำมาทิ้งไว้ ในพื้นที่ใกล้กับต้นน้ำคลองปากเรียง หมู่ที่ 3 ตำบลกะเปา โดยไม่มีการฝังกลบเกิดการสะสมจนเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็น เมื่อฝนตกน้ำฝนก็จะชะล้างของเสียดังกล่าวไหลลงคลองปากเรียง ทำให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถใช้น้ำในคลองได้ อีกทั้งส่งผลเสียต่อสุขภาพอนามัย จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เนื่องจากมีข้อเกี่ยวข้องกับแนวเขตและกรรมสิทธิ์ในที่ดินของสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลบ้านเชี่ยวหลานว่า เป็นของหน่วยงานใดระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลกะเปา อำเภอคีรีรัฐนิคม หรือของเทศบาลตำบลบ้านเชี่ยวหลาน อำเภอบ้านตาขุน จึงเห็นควร ให้คณะกรรมการฯ พิจารณา และเพื่อให้ได้แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน และเป็นรูปธรรมมากที่สุด สำหรับ การให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะแนวทางการดำเนินการจัดจ้างเผาขยะโดยเอกชน ของ เทศบาลตำบลเกาะเต่า โดยเทศบาลตำบลเกาะเต่าแจ้งว่า จะดำเนินการจัดจ้างเอกชนเข้าดำเนินการกำจัดขยะ โดยวิธีการเผา แบบไม่มีค่าตอบแทน ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการจัดการมูลฝอย พ.ศ. 2560 ส่วนที่ และการมอบหมายเอกชนเก็บ ขน หรือกำจัดมูลฝอย ข้อ 17 ในการมอบหมายให้เอกชนดำเนินการ หรือร่วมดำเนินการกำจัดมูลฝอย จึงเสนอคณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจังหวัดสุราษฎร์ธานี พิจารณาให้คำแนะนำแนวทางในการจัดจ้างเอกชนเผาขยะ แบบไม่มีค่าตอบแทนให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง ตามกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป.