ใช้การกรอง

Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “เครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ปี 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรต

 

วันที่ 14 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น. ณ อาคารสิริประภา เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองประธานกรรมการที่ปรึกษาและประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “เครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ปี 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา องค์ประธานกรรมการมูลนิธิฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 - 16 พฤษภาคม 2567 ณ อาคารสัมมนาสิริประภา เขื่อนรัชชประภา และชุมชนบ้านปากซวด อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนรัชชประภา คณะกรรมการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ตัวแทนภาครัฐ ตัวแทนภาคเอกชน ชุมชน และเยาวชนเครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 19 ชุมชน เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) อาสา ปฏิบัติการภัยพิบัติ เข้าร่วมในพิธี จากนั้นคณะชมการสาธิตการเตรียมการเผชิญเหตุภัยพิบัติ กรณีน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเกิดเหตุ โดยทีมเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) อาสา ปฏิบัติการภัยพิบัติ และทีมเครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ชุมชนตำบลเกาะขันธ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ณ บริเวณท่าเรือ กฟผ.

และช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ บ้านปากซวด ตำบลพะแสง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตัวแทนเยาวชนเครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 19 ชุมชน เข้าร่วมอบรม "แลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงปฏิบัติการเครือข่ายชุมชนเตือนภัยพิบัติ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน" รับฟังการบรรยายแนวคิดอนุรักษ์พื้นที่ป่าต้นน้ำ เพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน โดยวิทยากรจากอุทยานแห่งชาติเขาสก และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ณ จุดดูงาน 3 จุด ดังนี้ จุดที่ 1 ระบบสำรองน้ำเพื่อการเกษตร อุปโภค – บริโภค จุดที่ 2 ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง คนอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน จุดที่ 3 กองทุนชุมชน ความสุขที่ยั่งยืน เครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) จัดตั้งขึ้นตามพระดำริในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา องค์ประธานกรรมการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ที่ทรงให้มูลนิธิฯ ดำเนินกิจกรรมด้านการเฝ้าระวังภัยพิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเหตุอุทกภัยและดินถล่ม เพื่อป้องกันและลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยจัดให้มีระบบการเตือนภัยล่วงหน้าโดยอาศัยเทคโนโลยีจากสถานีโทรมาตรอัตโนมัติ เชื่อมโยงกับการเฝ้าระวังในระดับชุมชน รวมทั้งการเสริมสร้างศักยภาพและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้มีองค์ความรู้ ความพร้อม และความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที มูลนิธิฯ จึงได้น้อมนำพระดำริมาดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายและจัดตั้งเครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) จำนวน 19 แห่ง ในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังภัยการเตือนภัยและอพยพกรณีประสบภัยพิบัติ รวมทั้งมีการบริหารจัดการน้ำในระดับชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งมูลนิธิฯ ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ ปี 2562

ปัจจุบัน มูลนิธิฯ ได้ขยายเครือข่ายการดำเนินงานร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการดำเนินงานด้านการเฝ้าระวังภัยพิบัติ การบรรเทาทุกข์ และการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ทำให้เครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 19 ชุมชน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำองค์ความรู้ต่างๆ ที่ได้รับจากการอบรมในครั้งนี้ไปถ่ายทอดและขยายผลให้แก่เยาวชนและเครือข่ายชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อสร้างโครงข่ายของเครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ.

ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี มอบบ้านตามโครงการ "ซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภก สภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567"

 

วันที่ 14 พ.ค. 67 เวลา 14.00 น. ณ บ้านนายมนน เพราพริ้ง บ้านเลขที่ 28 หมู่ที่ 11 ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบบ้านตามโครงการ "ซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภก สภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567"
โดยมี นางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ในโครงการ พร้อมทั้งนายอำเภอดอนสัก ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และประชาชน ให้การต้อนรับ

โดยเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ตระหนักถึงความสำคัญในปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย จึงได้จัดทำโครงการ "ซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภก สภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567" จำนวน 28 หลัง วงเงินหลังละไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เกิดความสุขทั้งร่างกายและจิตใจรวมทั้งให้มีที่อยู่อาศัย อันเป็นปัจจัยจำเป็นแก่การครองชีพ ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น บ้านที่จะส่งมอบนี้เหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สร้างให้กับครอบครัวบ้านนายมนน เพราพริ้ง งบประมาณจำนวน 100,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวขอบคุณ เหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้จัดทำโครงการ"ซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภก สภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567" ซึ่งโครงการนี้ นับว่ามีประโยชน์ต่อผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งยังเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ทำให้ผู้ด้อยโอกาสมีที่อยู่อาศัยที่คงทนถาวร สามารถป้องกันอันตราย ที่มีต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเองได้ อีกทั้ง ยังก่อให้เกิดความสามัคคีปรองดองขึ้นในพื้นที่ ดังจะเห็นได้จาก การให้การสนับสนุนและบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในพื้นที่อำเภอดอนสักเพื่อก่อสร้างบ้านหลังนี้ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และส่งผลให้บุคคลทั่วไป ได้ตระหนักถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถือเป็นการส่งเสริมให้สังคมไทย มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและกัน.

 

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 4/2567


วันที่ 14 พฤษภาคม 2567  เวลา 13.30 น.
นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี  เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 4/2567 ณ ห้องประชุมสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานี เพื่อพิจารณากำหนดราคาประเมินที่ดินเพิ่มเติม กรณีแปลงที่ดินแบ่งแยกใหม่และยังมิได้กำหนดราคาประเมินที่ดิน รอบบัญชี พ.ศ.2566 - 2569 โครงการ เดอะทาม ตั้งอยู่ตำบลเขาวง อำเภอบ้านตาขุน จำนวน 60 แปลง โครงการหมู่บ้านแกรนด์พารากอน หนองขรี ตั้งอยู่ตำบลหนองไทร อำเภอพุนพิน จำนวน 91 แปลง และพิจารณาการคัดค้านราคาประเมินที่ดินในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 2 ราย
   

จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 3/2567

 

วันที่ 14 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 3/2567 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อพิจารณาโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2567 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้งปี 2567/2568 ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยจังหวัดตรวจสอบแผนงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2567 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้งปี 25672568 ผ่านระบบ Thai Water Plan พบว่า มีหน่วยงานเสนอโครงการเพื่อดำเนินการในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นโครงการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกรมต่าง ๆ เป็นหน่วยรับงบประมาณ จำนวน 59โครงการ วงเงิน 291,664,500 บาท

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สำหรับขั้นตอน Sign off 2 ประธานคณะอนุกรรมการจังหวัดจะต้อง ดำเนินการยืนยันนำส่งชัอมูลแผนงานโครงการฯ ภายในวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ซึ่งสามารถจำแนกตามแผนแม่บทฯ จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านที่ ๑ การจัดการน้ำ อุปโภคบริโภค จำนวน 34 โครงการ ด้านที่ 2 การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิตจำนวน 19 โครงการ ด้านที่ 3 การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย จำนวน 3 โครงการ และต้านที่ 4 การอนุรักษ์และพ้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรน้ำ จำนวน 3 โครงการ เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!