วันที่ 10 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น.

นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายสงบ สะโตน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการระบายน้ำในเขตตัวเมืองและถนนสายสำคัญของอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี หลังจากลงพื้นที่สำรวจและวางแนวทางแก้ไขปัญหาเมื่อวานนี้ (9 พ.ค.68)

โดยจุดแรก ลงพื้นที่บริเวณถนนเลี่ยงเมืองฝั่งตรงข้าม โรงแรมแก้วสมุยรีสอร์ท ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี นำเครื่องสูบน้ำระยะไกล ขนาด 28,000 ลิตรต่อนาที มาติดตั้ง เพื่อเร่งอัตราการระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำรอระบาย โดยการติดตั้งจะแล้วเสร็จวันนี้ ซึ่งหากมีฝนตกหนัก ก็พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำทันที ส่วนบริเวณร่องกลางถนน ก็ได้มีการขุดเพิ่มช่องทางให้น้ำที่สะสมในร่องกลางถนน ไหลเข้าระบบระบายน้ำได้เร็วขึ้นด้วย ส่วนบริเวณทางเข้าโรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ซึ่งเป็นจุดที่น้ำจากเขาท่าเพชรไหลลงมา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เปิดฝาท่อระบายน้ำและตั้งแบริเออร์ และกรวยยางโดยรอบ เพื่อให้น้ำไหลลงระบบระบายน้ำได้ดีขึ้น ส่วนระยะยาว จะมีการเปลี่ยนฝาท่อเป็นตะแกรงเหล็ก เพื่อให้รับน้ำได้เร็วขึ้น

จากนั้น ได้เดินทางไปดูสถานที่ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเครื่องที่ 2 ที่บริเวณริมถนนสายสุราษฎร์ - นาสาร หน้าโรงเรียนบ้านบางใหญ่ เพื่อเร่งการระบายน้ำไปลงคลองมะขามเตี้ยอีกจุด ก่อนจะเดินทางต่อไปที่ซอยโกเตง เพื่อติดตามการขุดลอกทางระบายน้ำริมถนน และ การเปิดฝาท่อ ให้รับน้ำเข้าระบบระบายได้เร็วขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ

นอกจากการเตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เน้นย้ำ เรื่องของการจัดเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะต้องมาเฝ้าระวังและประจำจุด เพื่อแก้ไข กรณีมีเศษขยะ ดินโคลน มาปิดปากท่อ ที่จะเป็นอุปสรรคให้การระบายน้ำทำได้ช้า จนเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งความคืบหน้าครั้งนี้ ถือเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น รับมือปริมาณฝนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ส่วนระยะกลางและระยะยาว ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามแผนงานและงบประมาณที่กำหนดไว้ ตามกำหนดต่อไป

วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 น.

นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายสงบ สะโตน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาวกานสินี โอภาสรังสรรค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต 1 นางโสภา กาญจนะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายชูจิตร ไตรวรรณ์ ปลัดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี รองปลัดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจสาเหตุของปัญหาการระบายน้ำในถนนสายสำคัญของอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี หลังเกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอระบาย เมื่อมีฝนตกหนัก สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก

โดยจุดแรก ลงพื้นที่บริเวณทางหลวงหมายเลข 420 หรือถนนเลี่ยงเมือง บริเวณสามแยกทางเข้าโรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ซึ่งเป็นจุดที่น้ำจากเขาท่าเพชร และพื้นที่สูงไหลลงมา และท่อระบายน้ำตามแนวถนนมีช่องให้น้ำลงขนาดเล็ก ทำให้น้ำได้ไหลบ่ามาตามผิวถนนและไม่เข้าระบบระบายน้ำหลัก จุดดังกล่าว อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ. จึงได้หารือแนวทางระยะสั้น ด้วยการเปิดฝาท่อ และใช้แบริเออร์กั้นไม่ให้รถหรือคนตกลงไป เพื่อให้น้ำระบายลงท่อหลักได้เร็วขึ้น ส่วนบริเวณริมถนนเลี่ยงเมือง แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 1 และเร่งขุดลอกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และเตรียมติดตั้ง เครื่องสูบน้ำแบบถาวร 2 เครื่อง บริเวณปลายท่อเพื่อลงคลองบางใหญ่ และฝั่งถนนสายสุราษฎร์ - นาสาร ที่จะไปลงคลองมะขามเตี้ยเพื่อเพิ่มอัตราการระบายน้ำ พร้อมทั้งเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เพื่อสูบน้ำจากท่อพักแต่ละจุด กรณีที่มีน้ำปริมาณมาก นอกจากนี้ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้เตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว 30 – 50 คน คอยประจำตลอดแนวท่อ เพื่อคอยเปิดทางน้ำหากมีขยะมาอุดตะแกรงปากท่อ รวมถึง ยังได้วางแผนใช้รถขนาดใหญ่ มาจอดปิดกั้นช่องจราจรที่มีน้ำท่วมสูง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ส่วนระยะกลางได้กำหนดแผนการลอกท่อต่อเนื่อง ทั้งเครื่องจักรและแรงงานคน พร้อมทั้งวางโครงการทำประตูระบายน้ำพร้อมเครื่องสูบน้ำ ลงคลองบางใหญ่

ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และคณะ ได้ลงพื้นที่บริเวณ ซอยโกเตง ซึ่งเป็นอีกจุดที่มีน้ำท่วมขังถนน ต่อเนื่องไปยังหน้าทางเข้า สถานีขนส่ง บขส.สุราษฎร์ธานี ซึ่งจะนี้พบว่า มีตะกอนดินจำนวนมากที่ไหลมากับน้ำ ทำให้ปากท่อ และตะแกรงอุดตัน จุดนี้ระยะสั้ง จะมีการขยายปากท่อรับน้ำ และในอนาคตจะเปลี่ยนเป็น ตะแกรงเหล็กต่อไป ส่วนบริเวณจุดเชื่อมต่อท่อ จะต้องมีการขุดเชื่อมท่อและรางจากข้างถนนเข้ากับระบบระบายน้ำหลักเพื่อประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากมีการเปิดปากท่อหรือเปลี่ยนเป็นตะแกรง ตะกอนดินจะลงไปสะสมในท่อเร็วมาก ซึ่ง เทศบาลตำบลวัดประดู่ เจ้าของพื้นที่จะต้องขุดลอกท่อ บ่อยครั้งมากขึ้น รวมถึงเมื่อมีฝนตก จะต้องเตรียมเจ้าหน้าที่ มาคอยเก็บขยะที่ไหลมาปิดปากท่อ

จากนั้น ได้ลงพื้นที่ บริเวณริมถนนสายสุราษฎร์-พุนพิน บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลสวนสราญรมณ์ และ ต่อเนื่องบริเวณปากซอยเจริญลาภ ซึ่งจุดนี้พบว่า ระบบระบายน้ำหลักมีขนาดใหญ่ แต่ระบบรองจากถนนซอยยังไม่เชื่อมเชื่อมหากัน และในท่อหลักก็มีตะกอนทรายค่อนข้างมาก ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบหมายให้ เทศบาลเมืองท่าข้าม หารือกับแขวงทางหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค เขต 4 ในการขุดทางระบายน้ำชั่วคราวเพื่อเชื่อมระบบให้น้ำระบายเร็วขึ้น แต่ต้องเลี่ยงไม่ให้กระทบกับท่อประปาขนาดใหญ่ ที่ฝังอยู่ในแนวถนนดังกล่าวด้วย ซึ่งการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ขอให้เร่งทำทันที เพราะในระยะ 1 – 2 วันนี้ ได้มีคำเตือนว่า ในพื้นที่จะมีฝนตกเพิ่มขึ้น ไปจนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน