ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี รับมอบนโยบาย จากนายกรัฐมนตรี เรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชน ผ่านระบบทางไกล พร้อมเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติช่วงปลายปีนี้ โดยใช้บทเรียนจากภูมิภาคอื่นเป็นแนวทางป้องกันและลดผลกระทบความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่

วันที่ 3 ตุลาคม 2565  เวลา 09.30 น. นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี นายมนตรา พรมสินธุ ปลัดจังหวัด นายกล้าณรงค์ ยุติธรรม หัวหน้าสำนักงานจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม การบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ ณ ห้องประชุมตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผ่านระบบทางไกล โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ซึ่งมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานด้านการพยากรณ์สถานการณ์น้ำ การแจ้งเตือนภัย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย
ด้านนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้ทราบว่าหลายพื้นที่ยังคงประสบอุทกภัยอยู่ และจากการคาดการณ์สภาพอากาศจะยังมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น จึงต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนให้เร็วที่สุด ส่วนการบริหารจัดการน้ำขณะนี้ ค่อนข้างเต็มกำลัง ส่วนเขื่อนต่างๆ ก็เริ่มเต็มความจุ หากมีร่องมรสุมหรือพายุพาดผ่าน จะต้องวางแผนการช่วยเหลือ อพยพประชาชน โดยเฉพาะลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูล รวมถึง ลุ่มเจ้าพระยา
โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เน้นย้ำเรื่องการแจ้งเตือนการพยากรณ์อากาศให้เข้าถึงประชาชนอย่างครอบคลุม รวมไปถึงสั่งการให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ เร่งจัดการน้ำ จัดเตรียมกำลังพล เครื่องมือ ยุทโธปกรณ์ ให้พร้อมเพื่อรับมือภัยต่างๆ และการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนต้องรวดเร็ว ขณะที่รัฐบาลได้จัดเตรียมงบกลางเพื่อให้การสนับสนุน ซึ่งเน้นการป้องกันพื้นที่เขตเศรษฐกิจ พื้นที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาล และจัดแบ่งกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบเป็น ชุมชน เกษตรกร ปศุสัตว์ เพื่อดูแลประชาชนให้ครบถ้วนอย่างทั่วถึง
ขณะที่นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ให้ทุกหน่วยงานใช้บทเรียนจากภูมิภาคอื่นเป็นแนวทางป้องกันและลดผลกระทบความเดือดร้อนให้กับประชาชน พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนและอุทกภัยช่วงปลายปีนี้ โดยเฉพาะเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการแจ้งเตือน ช่วยเหลือ เมื่อเกิดเหตุอย่างทันท่วงที และ การเยียวยาฟื้นฟูหลังเกิดเหตุ

วันที่ 30 กันยายน 2565 เวลา 09.30 น. ณ โรงเรียนวัดบางคราม หมู่ที่ 2 ตำบลปากฉลุย อำเภอท่าฉาง
นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในกิจกรรม 130 ปี กระทรวงมหาดไทย 130 ทุน และเปิดศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE โรงเรียนวัดบางคราม เนื่องในโอกาสการสถาปนากระทรวงมหาดไทยครบ 130 ปี ในปี พ.ศ.2565 ซึ่งเป็นการมอบโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษา ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่ดีของเยาวชนไปด้วยกัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ในการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป้าหมายสำคัญ คือ การแก้ไขปัญหาความยากจน เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นภารกิจหลักของกรมการปกครอง คือ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข
ซึ่งมีกิจกรรมประกอบด้วย การมอบทุนการศึกษา จำนวน 130 ทุน ๆ ละ 1,000 บาท แก่นักเรียน นักศึกษาในพื้นที่ และการประกวด TO BE NUMBER ONE CONTEST THACHANG 2022 การประกวด TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THACHANG 2022 การจัดนิทรรศการการดำเนินงานศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่นในสถานศึกษา รับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ของดีท่าฉาง อีกทั้งตรวจเยี่ยมบ้านผู้เปราะบางทางสังคม จำนวน 1 ราย ในพื้นที่ตำบลปากฉลุย
ในการนี้มี นายสุกิจ มีพริ้ง นายอำเภอท่าฉาง, นางศรีเวียง มีพริ้ง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุราษฎร์ธานี ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ นักเรียน นักศึกษา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป ร่วมกิจกรรมดังกล่าว

วันที่ 30 กันยายน 2565

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมสัมภาษณ์สด ในรายการแหลงข่าวชาวใต้ ทางสถานีโทรทัศน์ NBT South ทีวีดิจิตอลภาคใต้ ในกิจกรรมการเปิดตัวรถนิทรรศการ APEC 2022 สัญจร “APEC พร้อม ไทยพร้อม” ซึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็น 1 ใน 8 จุดเริ่มต้นเส้นทางสัญจรของรถนิทรรศการฯ ในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน พร้อมกับ อีก 7 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้กลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ และประชาชน ได้เกิดการความรู้ความเข้าใจ และสร้างการมีส่วนร่วมในการใช้ประโยชน์จากการที่ไทย ได้เป็นเจ้าภาพการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) 2565 ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG โมเดล โดยมี นายศุภพงษ์ เชาวน์แล่น ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ เขต 5 ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่หน่วยสื่อทุกแขนงในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สื่อมวลชนในพื้นที่ และ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ร่วมกิจกรรม

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพประชุมเอเปค ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้นำเสนอศักยภาพ ความพร้อมของประเทศไทย การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การค้า และลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาชาติ ซึ่งแม้ว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะไม่ได้เป็นสถานที่จัดประชุม แต่จะได้โอกาสนำเสนอความโดดเด่นด้านอาหาร สินค้า GI และการแสดงทางวัฒนธรรม ต่อผู้นำทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

สำหรับ รถนิทรรศการ APEC 2022 สัญจร มีทั้งหมด 8 คัน กระจายไปยังสำนักประชาสัมพันธ์เขต ทั้ง 8 เขต ทั่วประเทศ ก่อนจะสัญจรต่อไปยังจังหวัดต่างๆ ในแต่ละภูมิภาค ครอบคลุม ทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งภายในรถจะมีนิทรรศการให้ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับ เอเปคและ21 เขตเศรษฐกิจ ผ่านเทคโนโลยี AR MAP นิทรรศการการเรียนรู้ความเป็นมาและความสำคัญของการเป็นเจ้าภาพประชุม เอเปค แนวคิดการจัดงาน open connect balance , โมเดลเศรษฐกิจ BCG และตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ใช้แนวคิดของ BCG ขับเคลื่อนในแต่ละภูมิภาค รวมถึง มีกิจกรรมให้ผู้ที่สนใจได้ร่วมสนุกรับของที่ระลึก โดยรถนิทรรศการดังกล่าว จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน – 7 ตุลาคม 2565 ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปยังแหล่งชุมชน ตลาดนัด ถนนคนเดิน และสถาบันการศึกษา ก่อนจะเดินทางไปจัดนิทรรศการที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดอื่นๆต่อไป