Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเรือสำราญ Mein Schiff 5 ของกลุ่ม TUI Cruise หนึ่งในบริษัทท่องเที่ยวของยุโรป นำนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน 1,897 คน และลูกเรือ 917 คน เข้าจอดหน้าอ่าวหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย

วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07.00 น. ณ ท่าเทียบเรือหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย  จังหวัดสุราษฎร์ธานี

        นายชูศักดิ์  รู้ยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ คลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายอำเภอเกาะสมุย  ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเกาะสมุย รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานี รองนายกเทศมนตรีเกาะสมุย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเรือสำราญ Mein Schiff 5 ของกลุ่ม TUI Cruise หนึ่งในบริษัทท่องเที่ยวของยุโรป ซึ่งเรือสำราญ Mein Schiff 5 เป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ลำที่ 2 จากยุโรปที่นำนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน 1,897 คน และลูกเรือ 917 คน เข้าจอดหน้าอ่าวหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย ในลักษณะ One Day Trip ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ บนเกาะสมุย ภายใต้แคมเปญ Samui Always Warm โดยเปิดโอกาสให้ท่องเที่ยวชุมชนมีส่วนร่วมในการต้อนรับให้บริการนักท่องเที่ยว เช่น สปา แหล่งช้อปปิ้ง การเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง การรับประทานอาหารพื้นถิ่น และของใช้ตามสไตล์นักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถกระจายรายได้สู่ประชาชนในพื้นที่ครบทุกมิติ รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์และความทรงจำให้กับนักท่องเที่ยวในมิติที่ดี และจะเป็นโอกาสสำคัญที่จะสร้างรายได้ต่อยอดไปสู่การต้อนรับเรือสำราญลำต่อๆไป
       ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวลงจากเรือสำราญ Mein Schiff 5 มายังเรือไฮเวย์ที่รอให้บริการเพื่อเดินทางเข้าสู่ท่าเทียบเรือหน้าทอน โดยจะได้รับแผนที่และกระเป๋าผ้า Amazing Thailand และขนมกาละแมเป็นของที่ระลึก พร้อมรับชมการแสดงที่ให้เห็นถึงวิถีชีวิตของสาวสมุย อันเป็นการดึงจุดเด่นของความเป็นสาวชาวเกาะ ที่มีความสวยเข้ม ตามบุคลิกลักษณะของสาวภาคใต้ที่ผสมผสานกับศิลปะการแสดงพื้นบ้านมโนราห์ ถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานการแสดงที่มีคุณค่าและสร้างสรรค์ สำหรับเรือสำราญ Mein Schiff 5 จะนำนักท่องเที่ยวออกเดินทางจากเกาะสมุย เพื่อไปยังท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ต่อไป

“รมว.ท่องเที่ยว” เปิดงาน “ไชยา มหานครศรีวิชัย” ที่สุราษฎร์ธานี สุดตระการตา บอกเล่าตำนานเมืองไชยาศูนย์กลางอาณาจักรศรีวิชัยในอดีต พร้อมระดมความร่วมมือต้อนรับนักท่องเที่ยว กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว พัฒนาสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มั่นคงและยั่งยืน

วันที่ 17 ธันวาคม 2565 บริเวณวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ตำบลเวียง อำเภอไชยา จังหวัด สุราษฎร์ธานี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) , นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกันเปิดงาน “ไชยา มหานครศรีวิชัย” โดยมี ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานพันธมิตร ตลอดจนประชาชนชาวสุราษฎร์ธานี และนักท่องเที่ยวร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิด อย่างอลังการน่าตื่นตื่นตาตื่นใจ พร้อมร่วมชมการแสดงแสงสีเสียงในระบบ Multi-Dimension สุดยิ่งใหญ่ จัดเต็มพลุดอกไม้ไฟ นำเสนอตำนานเมืองไชยาศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยในอดีต พร้อมระดมทุกภาคส่วนสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ หน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงาน “ไชยา มหานครศรีวิชัย” จากความร่วมมือร่วมใจกันของทุกภาคส่วน โดยมุ่งหวังให้การท่องเที่ยว เป็นกลไกสำคัญของการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของจังหวัดสุราษฎร์ธานีและประเทศโดยรวม สอดคล้องกับนโยบาย “ฟื้นประเทศด้วยท่องเที่ยว” ของ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การจัดงานครั้งนี้สะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ศูนย์กลางแห่งความรุ่งเรืองนับพันปี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระบรม- ธาตุไชยาอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นศูนย์รวมจิตใจ และเป็นพุทธประติมากรรมที่วิจิตรงดงามของประเทศไทย นอกจากนี้จังหวัดสุราษฎร์ธานียังมีสิ่งดี ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส เช่น ข้าวหอมไชยา ซึ่งเรียกกันว่า ข้าวหอมหมื่นลี้ ผ้าทอพุมเรียง ผัดหมี่ไชยา ไข่เค็มไชยา แหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานในครั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวนำไปสู่การสร้างเสริมเศรษฐกิจและกระจายรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อพัฒนาสู่การท่องเที่ยวที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป”
ด้านนายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า “จังหวัดสุราษฎร์ธานีขอขอบคุณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้ทำให้เกิดงานนี้ขึ้น ตามแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้พลิกฟื้นกลับมาและก้าวหน้าไปสู่อนาคตที่สดใสอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ชาวสุราษฎร์ธานีเป็นคนมีน้ำใจไมตรี พร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนทุกคน ด้วยความล้ำค่าของแผ่นดินโบราณที่เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัย มีสถาปัตยกรรม อารยธรรม ภูมิปัญญา และศิลปวัฒนธรรม ประเพณี โดยเฉพาะแหล่งโบราณคดีอันล้ำค่า คือ องค์พระบรมธาตุไชยาอันศักดิ์สิทธิ์”
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีนโยบายที่จะขับเคลื่อนให้ “การท่องเที่ยว” เป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของพี่น้องชาวไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ชุมชนท่องเที่ยว ด้วยกลยุทธ์การกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวด้วยกลไกด้านการตลาด ควบคู่กับกลยุทธ์ การส่งเสริมการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว ททท.จึงได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร จัดงาน “ไชยา มหานครศรีวิชัย” เพื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรรม และความเชื่อที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของพี่น้องชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้รับการถ่ายทอดและสืบสานมาจากอาณาจักรโบราณศรีวิชัย พร้อมผลักดันให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี” เป็นเมืองท่องเที่ยว ผ่านการออกแบบกิจกรรม ใน 5 รูปแบบ ได้แก่

  1. พิธีสมโภชผ้าห่มและพิธีแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุไชยา เพื่อเสริมความเป็น สิริมงคลแก่นักท่องเที่ยว ตลอดทั้งผลักดันสู่การเป็นเทศกาล-งานประเพณีระดับประเทศต่อไป
  2. การจำลองแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองไชยา ทั้งพระบรมธาตุไชยาและมวย ไชยา เพื่อให้เป็นจุด Check-in สำหรับนักท่องเที่ยวในประประชาสัมพันธ์การจัดงานให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
  3. การออกร้านจำหน่ายสินค้า อาหาร และการบริการทางด้านการท่องเที่ยว กว่า 50 ร้านค้าที่คัดสรรมาจาก อำเภอท่าชนะ อำเภอไชยา อำเภอท่าฉาง อำเภอวิภาวดี และอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
  4. การแสดงแสงสีเสียง ชุด “ไชยา มหานครศรีวิชัย” โดยการนำเทคโนโลยีสร้างสรรค์ ผสมผสานศิลปะการแสดง พร้อมเทคนิคพิเศษพลุดอกไม้ไฟ นำเสนอประวัติศาสตร์ อารยธรรมอาณาจักรโบราณศรีวิชัย
  5. การแสดงศิลปวัฒนธรรมและการแสดงจากศิลปินดัง เพื่อสร้างความสุขสนุกสนาน และบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ เพื่อเป็นของขวัญให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคน


ททท. คาดว่า การจัดงาน “ไชยา มหานครศรีวิชัย” ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2565 ในครั้งนี้ จะส่งเสริมให้บรรยากาศการเดินทำงของนักท่องเที่ยวชาวไทย ตลอดเดือนธันวาคมนี้ ไม่น้อยกว่า 95,000 คน-ครั้ง สร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานีในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวได้ไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท”
การจัดงาน “ไชยา มหานครศรีวิชัย” สนับสนุนโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ จังหวัดสุราษฎร์ธานี , เทศบาลตำบลเวียง , วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร , บริษัท ไอ-อีเวนท์ จำกัด ทั้งนี้นักท่องเที่ยว และประชาชนที่สนใจ สามารถเข้าชมงานฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2565 เวลา 16.00-22.00 น. ณ วัดพระบรมธาตุไชยาฯ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีศิลปินมาร่วมสร้างสีสันและความสุขภายในงาน เช่น ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ , บ่าววี , วงฌามา , เบ็นซ์ จริยา , รัชนก ศรีโลพันธุ์ ตลอดทั้งการแสดงทางวัฒนธรรม รำวงเวียนครก การสาธิตมวยไชยา ฯลฯ รวมถึงร้านค้าร้านอาหารเด็ดที่นำเสนออัตลักษณ์ของสุราษฎร์ธานีอีกมากมาย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานกรรมการกองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าเขื่อนรัชชประภา พร้อมด้วย คณะกรรมการฯ ร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่โรงไฟฟ้า

วันที่ 15-16 ธันวาคม 2565

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานกรรมการกองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าเขื่อนรัชชประภา พร้อมด้วย คณะกรรมการฯ ร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่โรงไฟฟ้า โดยมีกิจกรรมศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ ดังนี้

  1. บ้านสวนอคิราห์ เกษตรตามรอยพ่อ ศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนี่องมาจากพระราชดำริ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งได้นำเอาหลักของการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ พัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง รูปแบบโคกหนอง นา โมเดล เป็นแนวทางในการจัดการทรัพยากรระดับไร่นา คือ ที่ดินและน้ำเพื่อการเกษตรในดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีเป้าหมายเป็นการค้าเกษตรอินทรีย์ เป็นศูนย์เรียนรู้เทือถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านต่างๆ ให้กับประชาชนในพื้นที่ๆ และผู้ที่สนใจทั่วไปตลอดจนถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร จำหน่ายสินค้า OTOP และค้าของวิสาหกิจชุมชน เปิดบริการให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ "ศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต้นแบบปี 2564”
  2. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สาใหม่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สาใหม่ การดำเนินงาน งานส่งเสริมส่งเสริมการปลูกพืชผัก ไม้ผล ภายใต้ระบบมาตรฐานอาหาร ลอย ได้แก่ ระบบการเพาะปลูก ดี (GAP) สร้างรายได้ที่มั่นคงและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแก่เกษตรกร นอกจากนี้ยัง


สนับสนุนและส่งเสริมกระบวนการ มีส่วนร่วมของชุมชน โดยการจัดกิจกรรมและพัฒนาด้าน การศึกษา สังคม สิ่งแวดล้อม และสาธารณสุข ส่งเสริมการอนุรักษ์งานหัตถกรรมชนเผ่า รวมทั้งส่งเสริมการปลูกป่าชาวบ้านตามแนวพระราชดำริ ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และศึกษางานวิจัยการทดสอบสายพันธุ์เปปิโนร่วมกับไม้ผลส่วนกลาง การทดสอบปุ๋ยระบบในสตรอว์เบอร์รีร่วมกับไม้ผลส่วนกลาง โดยมีผลผลิตหลัก คือ ผักกาดหอมห่อ ผักกาดขาวปลี ซาโยเต้ มะเขือเทศโครงการหลวง พริกหวาน มันฝรั่ง ผักกาด หางหงส์ ขึ้นฉ่าย แตงกวาญี่ปุ่น คอสสลัด กระหล่ำปลี แครอท แตงหอมตาข่าย ข้าวโพดหวาน สตรอเบอร์รี่ องุ่นดำไร้เม็ด มะเดื่อฝรั่ง เสาวรถ และอาโวคาโด ช่วยส่งเสริมให้ชาวบ้านและชนเผ่าต่างๆ ได้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายสินค้า

การเตรียมความพร้อมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี 2566 จังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันที่ 16 ธันวาคม 2565 เวลา 13.00 น.  ณ ห้องประชุมตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุม การเตรียมความพร้อมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี 2566 จังหวัดสุราษฎร์ธานี  โดยมีนายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ชี้แจงข้อมูลการเตรียมความพร้อม รับมือสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ในการช่วยเหลือประชาชน พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี อย่างรวดเร็ว และทั่วถึงอย่างมีประสิทธิภาพ

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!