Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

สุราษฎร์ธานี เปิด ถนนสายวัฒนธรรมบ้านดอน MHESI Street Art สร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรม สู่อัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจชุมชนภายหลังสถานการณ์โควิด-19

วันที่ 6 ตุลาคม 2565 เวลา 16.30 น.

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ MHESI Street Art ถนนสายวัฒนธรรมบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ ตลาดสะพานโค้งร้อยปี-ชุมชนตลาดท่าเรือ ต.ตลาด อ.เมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี นายดนุช ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ ศิลปินผู้เขียนภาพ นักเรียน นักศึกษา ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดพิธี

ในการนี้นายดนุช ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ได้มอบ ป้าย MHESI Street Art ให้แก่ นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และประธานชุมชน เพื่อเป็นการส่งมอบพื้นที่ทางวัฒนธรรม พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่ศิลปินที่ร่วมสร้างสรรค์ผลงานจิตกรรมบนกรรมแพง ทั้ง 6 ทีม อีกด้วย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวถือได้ว่าเป็น Street Art แห่งแรกของจังหวัดที่ได้รับการสนับสนุนและพัฒนาเป็นแหล่งเศรษฐกิจชุมชนจาก กระทรวง อว.

ทั้งนี้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้มีนโยบายให้ อว.ส่วนหน้าประจำจังหวัด ดำเนิน “กิจกรรม MHESI Street Art สร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมสู่อัตลักษณ์ท้องถิ่น” ภายใต้โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ในพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด เป้าหมาย ออกแบบ Street Art โดยอาศัยองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ผนวกกับการออกแบบในเชิงสร้างสรรค์ผสานนวัตกรรม ภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ท้องถิ่นจังหวัด โดยหน่วยปฏิบัติการส่วนหน้าของ อว. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ของชุมชนที่ได้รับความยินยอม เพื่อที่จะสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม อีกทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจชุมชนภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ให้แก่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

จังหวัดสุราษฎร์ธานีเตรียมจัดงานของดีเมืองสุราษฎร์ธานีและกาชาดจังหวัด ประจำปี 2566 หารายได้บรรเทาทุกข์ผู้ประสบปัญหาทางสังคม ปีนี้กำหนดจัดยิ่งใหญ่ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย

วันที่ 6 ตุลาคม 2565  ณ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางอุรสา จินโต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือเพื่อเตรียมพร้อมจัดงานของดีเมืองสุราษฎร์ธานีและกาชาดจังหวัด ประจำปี 2566 โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดฯ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 12 กุมภาพันธ์ 2566 ณ บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำตาปี อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อจัดหารายได้สมทบทุนเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำไปบรรเทาทุกข์ บำรุงสุขแก่ประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน และส่งเสริมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป

สำหรับงานในปีนี้ กำหนดจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ การออกร้านนาวากาชาด การรับบริจาคโลหิต นิทรรศการหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน การจำหน่ายสินค้าราคาถูก สินค้า OTOP ของดีของเด่น การประกวดการแต่งกายผ้าไทย การแสดงมหรสพ แสง สี เสียง บนเวที และการออกรางวัลสลากกาชาด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 โดยปีนี้มีรางวัลใหญ่ รางวัลที่ 1 เป็นทองคำแท่งน้ำหนัก 50 บาท รางวัลที่ 2 ทองคำแท่งน้ำหนัก 10 บาท รางวัลที่ 3 ทองคำแท่งน้ำหนัก 5 บาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งนี้ จะมีการจัดกิจกรรมวันรวมน้ำใจสู่กาชาด ในวันที่ 19 มกราคม 2566 ณ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี และพิธีเปิดงานของดีเมืองสุราษฎร์ และกาชาดจังหวัด ประจำปี 2566 ในคืนวันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ณ เวทีกลางท่าปลาวาฬ ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี.

พช.สุราษฎร์ธานี จับมือ ปปส.ภาค 8 และเครือข่ายกองทุนแม่ฯ จัดพิธีมอบเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน 38 หมู่บ้านในจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมพลังสร้างชุมชนเข้มแข็งเอาชนะยาเสพติด

วันที่ 6 ตุลาคม 2565

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีมอบเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประจำปี 2565 โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 8 หัวหน้าส่วนราชการ พัฒนาการจังหวัด นายอำเภอ คณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน สมาชิกกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียงกัน ณ อาคารศูนย์กลางการประชุมสัมมนาภาคใต้ตอนบน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดยนายกรองศักดิ์ โอยสวัสดิ์ พัฒนาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ดำเนินโครงการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน มีหมู่บ้านและชุมชนที่เข้าร่วมเป็นกองทุนแม่ของแผ่นดิน รวมจำนวน 413 แห่ง มีการจัดพิธีมอบเงินพระราชทานเงินขวัญถุงให้แก่หมู่บ้านชุมชนที่เพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อเป็นสิริมงคลและขวัญกำลังใจในการหลอมรวมความสามัคคี แก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน โดยในปี 2565 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกับคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับจังหวัด โดยการสนับสนุนงบประมาณของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 8 ตามโครงการพิธีมอบเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2565 ให้กับหมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน ปี 2564 จำนวน 19 หมู่บ้าน และหมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน ปี 2565 จำนวน 19 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 38 หมู่บ้าน

ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า กองทุนแม่ของแผ่นดิน เป็นกระบวนการที่มุ่งเน้นยุทธศาสตร์พระราชทาน “รู้รัก สามัคคี” ให้พสกนิกรพึ่งพาความเข้มแข็งของตนเอง ในการร่วมขจัดภัยยาเสพติดบนพื้นฐานให้อภัยทางสังคม ให้ความรู้รักสามัคคี และการสร้างความสมานฉันท์ของคนในชุมชน ร่วมกันเอาชนะปัญหาอุปสรรคต่างๆ ด้วยแนวทางสันติ ซึ่งการสร้างพลังแห่งความดีงามหากปรากฏมากขึ้น จะทำให้สามารถพลิกฟื้นหมู่บ้านชุมชนที่อ่อนแอ ให้กลายเป็นหมู่บ้านชุมชนที่เข้มแข็ง ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน การทุ่มเทแรงกาย แรงใจในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และขยายพลังแห่งความดีต่อยอดพัฒนาไปสู่ด้านต่างๆ เช่น การส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงฟื้นฟูวัฒนธรรม สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น และปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อนำพาหมู่บ้านชุมชนไปสู่สังคมแห่งคุณธรรมอย่างแท้จริง

และในโอกาสนี้ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และคณะ ได้ร่วมกันปล่อยขบวนรถแห่กองทุนแม่ของแผ่นดิน ที่ได้รับมอบเงินพระราชทานขวัญถุง จำนวน 38 คัน กลับสู่หมู่บ้านอีกด้วย.

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการขยายเขตบริการน้ำประปา ของการประปาส่วนภูมิภาคเขต 4 พื้นที่ตำบลพลายวาส อำเภอกาญจนดิษฐ์ ระยะทาง 5.2 กิโลเมตร เพื่อให้บริการประชาชนตลอดแนวท่อ และเรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน

วันที่ 5 ตุลาคม 2565

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ หมู่ที่ 8 บ้านกลางนา ตำบลพลายวาส อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการขยายเขตบริการน้ำประปา ระยะทาง 5.2 กิโลเมตร โดยเริ่มตัดเชื่อมท่อ จากทางแยกบ้านกลางนา หมู่ที่ 8 ไปยัง หมู่ที่ 2 และ 3 ตำบลพลายวาส วงเงินงบประมาณ 6.3 ล้านบาทเศษ กำหนดแล้วเสร็จวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 เพื่อให้บริการประชาชนตลอดแนวท่อและส่งน้ำให้กับเรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน ซึ่งขณะนี้ ก่อนสร้างเสร็จแล้ว เหลือเพียงการเชื่อมระบบน้ำประปาเข้าไป ก็จะสามารถย้ายผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี มายังเรือนจำดังกล่าวได้ตามแผนของกรมราชทัณฑ์ โดยมีนายพูลศักดิ์ โสภณปทุมรักษ์ นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ นายสุรพงษ์ สมหวัง ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขากาญจนดิษฐ์ และผู้นำท้องถิ่น ร่วมให้ข้อมูล

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า โครงการขยายเขตบริการน้ำประปาดังกล่าว มีความคืบหน้าตามแผนประมาณ 15 % แต่ก็ได้กำชับให้ดำเนินการก่อสร้างให้รวดเร็ว ซึ่งจะได้ประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ รวมถึง เรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน ที่ยังขาดเพียงน้ำประปา ก็จะเปิดใช้งานและสามารถย้ายผู้ต้องขังมาได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายของกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องการจะลดความแออัดของผู้ต้องขังจากเรือนจำในเขตเมือง ซึ่งมีพื้นที่จำกัด ส่วนในอนาคต เมื่อมีการย้ายผู้ต้องขังออกมาแล้ว พื้นที่เรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็มีแนวทางที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะขอใช้พื้นที่ทำเป็นสวนสาธารณะ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และเป็นปอดให้คนเมือง รวมถึงยังเป็นสถานที่ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งจากการประชุมหารือกับหลายฝ่ายก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว เพราะจะเกิดประโยชน์กับประชาชนค่อนข้างมาก

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!