Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

ผู้ว่าฯสุราษฎร์ ยกหน่วยทะเบียนราษฎรทำบัตรประจำตัวประชาชนเคลื่อนที่ Mobile unit ให้กลุ่มเปราะบางถึงบ้านเพื่อการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ “อยู่ที่ไหนก็พร้อมดูแล ขอบริการด้วยหัวใจ” ด้านครอบครัวกลุ่มเปราะบางปลื้มภาครัฐที่ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน

วันที่ 31 สิงหาคม 2565 เวลา 13.00 น.

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ ต.บางไทร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นำหน่วยทะเบียนราษฎรเคลื่อนที่ Mobile unit บริการทำบัตรประชาชนให้กลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง คนชรา และผู้พิการ จำนวน 3 ราย เพื่อการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ และสิทธิอันพึงจะได้รับ โดยมีนายมนตรา พรมสินธุ ปลัดจังหวัด นายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวร่วมลงพื้นที่ในการให้บริการและให้กำลังใจครอบครัวกลุ่มเปราะบางในครั้งนี้ด้วย


สำหรับกลุ่มเปราะบางที่รับบริการทำบัตรประชาชนในครั้งนี้มี จำนวน 3 ราย คือ

  1. นายสมบัติ ถาวรพร ผู้ป่วยติดเตียง อยู่บ้านเลขที่ 41/1 ม.3 ต.บางไทร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
  2. นายจอง มากนี ผู้พิการ อยู่บ้านเลขที่ 60/1 ม.3 ต.บางไทร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
  3. นายรื่น คงคาช่วย ผู้ป่วยติดเตียง อยู่บ้านเลขที่ 82 ม.2 ต.บางไทร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี


ซึ่งทางอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ได้ดำเนินการจากข้อมูลสำรวจ TPMAP ตามแผนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิในมิติการเข้าถึงสวัสดิการของภาครัฐ และสามารถรับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐทุกมาตรการตามสิทธิของตน

ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การทำบัตรประชาชนให้กลุ่มเปราะบางในครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนกลุ่มนี้ได้รับสิทธิ์และสวัสดิการของภาครัฐ และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ที่กำหนดรับลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน - 19 ตุลาคม 2565 ซึ่งผู้ที่มีสิทธิ์อยู่เดิมและผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐจะต้องลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด และจะต้องใช้บัตรประชาชนเป็นหลักฐานสำคัญในการลงทะเบียน รวมถึง เพื่อใช้สิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐในอนาคต จึงได้สั่งการให้ทุกอำเภอเร่งสำรวจและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้ยากไร้ กลุ่มเปราะบาง ที่ยังไม่มีบัตรประชาชน หรือบัตรสูญหาย โดยเฉพาะกลุ่มที่ตรวจสอบพบข้อมูลทะเบียนราษฎร หรือมีญาติรับรอง ให้เร่งออกบัตรและส่งมอบโดยเร็ว ให้การลงทะเบียนรับสิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนกรณีการไม่มีบัตรประชาชนด้วยสาเหตุอื่นๆ ให้พิจารณาดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและออกบัตรให้ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยต่อไป

ขณะที่ครอบครัวกลุ่มเปราะบางที่ได้รับบริการทำบัตรประชาชนเคลื่อนที่ ถึงบ้านต่าง ดีใจและปลื้มปริ่มในความช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้กลุ่มเปราะบางเหล่านี้ได้รับสิทธิ์และสวัสดิการที่ควรจะได้รับ ซึ่งการให้บริการในครั้งนี้สามารถลดปัญหาและอุปสรรคในเรื่องของการเดินทางและเคลื่อนย้ายกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งเพื่อความสะดวกในสวัสดิการแห่งรัฐตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์
สำหรับกรณีผู้ป่วยติดเตียง คนชรา คนพิการ ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ที่ต้องการใช้บัตรประจำตัวประชาชนเร่งด่วนสามารถติดต่อที่สำนักทะเบียน อำเภอหรือเทศบาลใกล้บ้าน เพื่อขอความประสงค์รับบริการทำบัตรประชาชนเคลื่อนที่ Mobile unit ในวันและเวลาทำการ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่สายด่วน 1548 เพราะ “ไม่ว่าประชาชนจะอยู่ที่ไหน ภาครัฐไม่เคยทอดทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน”

การประชุมคณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันที่ 31 สิงหาคม 2565  เวลา 09.30 น.  ณ ห้องประชุมสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานี

นายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานประชุมคณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี 

จังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมรับฟังความคิดเห็นกรอบแนวทางและค่าเป้าหมายแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

วันที่ 31 สิงหาคม 2565

นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไดรับมอบหมายจากนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาปรับปรุงกรอบแนวทางและค่าเป้าหมายแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จัดขึ้น ณ โรงแรมไดมอนพลาซ่า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวของในพื้นที่ได้แสดงความคิดเห็น เพื่อนำไปรับปรุงแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580 ช่วงที่ 2 พ.ศ.2566-2580) และเป็นข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางแนวทางในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ แผนงาน และประเด็นช่องว่างที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าประสงค์ของแผนต่อไป

โดยแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2562 เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาทรัพยากรน้ำของประเทศในระยะ 20 ปี ทั้งภัยแล้ง อุทกภัย และคุณภาพน้ำ โดยยึดหลักแนวทางตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาแหล่งน้ำ การอนุรักษ์ฟื้นฟู และการบริหารจัดการเชิงลุ่มน้ำทั้งระบบ ตั้งแต่ตันน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่ยุทธศาสตร์ชาติในประเด็นที่ 19 การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรน้ำ ภายใต้กรอบแนวทางการพัฒนา 6 ด้าน ประกอบด้วย การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย การจัดการคุณภาพน้ำและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ การอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรมและป้องกันการพังทลายของดิน และการบริหารจัดการ

สำหรับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี มีการดำเนินการมาแล้วในช่วงระยะเวลาหนึ่งตั้งแต่ปี 2561-2565 ในการดำเนินการตามแผนต่างๆ ผลการประเมินในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีบางกลยุทธ์/แผนงาน ที่ยังดำเนินการไม่บรรลุตามเป้าหมาย มีบางกลยุทธยังไม่มีการขับเคลื่อน นอกจากนี้บางกลยุทธ์ควรต้องมีการปรับปรุงเนื่องจากแรงผลักในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น โควิด-19 ที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์แรงงานคืนถิ่นหลายล้านคนสู่บ้านเกิด นำไปสู่ความต้องการใช้น้ำดินน้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตรสร้างรายได้กับแรงงานและครอบครัว , ภาวะสงคราม ที่ทำให้เกิดวิกฤตอาหารโลก นำไปสู่ความต้องการพืชอาหารบางประเภทและการใช้น้ำที่มากขึ้นในบางพื้นที่ , การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการน้ำ และภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอุทกภัยและภัยแล้ง , น้ำในเศรษฐกิจหมุนเวียนและการฟื้นตัว ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ของโลกที่สอดคล้องกับการดำเนินงาน ด้านเศรษฐกิจสีเขียว BCG ของประเทศไทย , การใช้มาตรการการแก้ปัญหาที่อาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน ซึ่งจะดำเนินงานร่วมกับโครงสร้างเดิมที่มีอยู่แต่สามารถรับมือกับความไม่แน่นอน จากภาวะโลกรวมในอนาคตได้ และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำสมัยใหม่ หรือ digitaltransformation

นอกจากนี้ ในปี 2565 นี้ ประเทศไทยมีคณะกรรมการลุ่มน้ำทั้ง 22 ลุ่มน้ำตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำในระดับพื้นที่ เพื่อให้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี มีความสมบูรณ์ครบถ้วน สอดคล้องกับทิศทางนโยบายการพัฒนาประเทศ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในปัจจุบัน.

ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานีจับมือกลุ่มช่วยเหลือนักเรียนขาดแคลน ลงพื้นที่เยี่ยมพร้อมมอบชุดนักเรียนและอุปกรณ์การกีฬาแก่นักเรียนและสถานศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง

วันที่ 30 สิงหาคม 2565  ณ หอประชุมอำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายสุเชาว์ โทมูสิก นายอำเภอพนม และกลุ่มเพื่อนศิษย์เก่าโรงเรียนสุราษฎร์ธานี ร่วมมอบชุดนักเรียนและรองเท้าแก่เด็กนักเรียนที่ขาดแคลนในพื้นที่อำเภอพนม ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวน 50 คน พร้อมมอบอุปกรณ์การกีฬาแก่โรงเรียน จำนวน 23 แห่ง ในนามกลุ่มช่วยเหลือนักเรียนขาดแคลนจังหวัดสุราษฎร์ธานี

สำหรับกลุ่มช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลนจังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มบุคคลคนในจังหวัดสุราษฏร์ธานี รวมตัวกันบริจาคเงินกันเอง มีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองนักเรียน ที่ต้องแบกรับภาระหลายด้าน ในขณะที่รายได้มีจำกัด ขณะที่เด็กนักเรียนบางคนมีชุดไปโรงเรียนเพียงชุดเดียว ไม่มีสับเปลี่ยน ต้องซักทุกวัน จึงมีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนในทุกอำเภอ เพื่อให้กำลังใจและเป็นแรงบันดาลใจแก่เด็กนักเรียนด้วย.

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!