วันที่ 29 กรกฎาคม 2565

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีถวายราชสดุดีพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 เนื่องในวันครบรอบ 107 ปี การพระราชทานนามสุราษฎร์ธานี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เหล่ากาชาด ภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีประธานในพิธี ได้วางพานพุ่มดอกไม้ จุดธูปเทียน เครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 พร้อมกล่าวคำสดุดีพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจน้อยใหญ่ เป็นรากฐานที่อำนวยประโยชน์ยิ่ง ต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าเท่าทันนานาอารยประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการปกครอง ด้านการศึกษา สาธารณสุข กฎหมาย ด้านเศรษฐกิจสังคม กิจการเสือป่าและลูกเสือ ให้เยาวชนได้เกิดความสามัคคี รวมทั้งการเสียสละเพื่อส่วนรวม ดังที่ได้พระราชทานคติประจำใจลูกเสือทุกคนว่า “เสียชีพอย่าเสียสัตย์”

โดยเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2485 พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามเมืองบ้านดอนใหม่ว่า “สุราษฎร์ธานี” อันหมายถึงเมืองแห่งคนดี ส่วนที่ประทับแรมที่ตำบลท่าข้าม ทรงพระราชชื่อว่า “พระตำหนักสราญรมย์” และสวนบริเวณนี้เรียกว่า “สวนสราญรมย์”

ข้อมูลข่าวจาก :  สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2565 เวลา 11.00 น.  ณ สนามศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ จินโต  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และนิทรรศการ 3 พระธาตุ สืบสานประเพณีเมืองคนดี ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 กรกฎาคม 2565  โดยมี นางอุรสา จินโต ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายศักดาพร รัตนสุภา รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายธธงชัย สารอักษร วัฒนธรรมจังหวัด กรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดฯตลอดจนข้าราชการ ประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าว

ทั้งนี้เพื่อสานต่อนโยบายรัฐบาล ในการทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ให้ส่งเสริมวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของชาติโดยอนุรักษ์ ฟื้นฟูและเผยแพร่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ศิลปะ ประเพณี ภูมิปัญญา ภาษาไทย และภาษาถิ่นที่มีอัตลักษณ์และความหลากหลายผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ของชาติ พร้อมทั้งสนับสนุนการสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยเพื่อกระตุ้นกระแสนิยมวัฒนธรรมไทย พัฒนาต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมอย่างเหมาะสม ปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดีทั้งด้านคุณธรรมจริยธรรมกตัญญู ความซื่อสัตย์ การมีวินัย เคารพกฎหมาย มีจิตสาธารณะและการมีส่วนร่วมทำประโยชน์ให้ประเทศและเป็นพลเมืองที่ดีโดยส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาภาคประชาสังคมและชุมชนเป็นฐานในการบ่มเพาะส่งเสริมให้ภาคเอกชนดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลให้สื่อมีบทบาทกระตุ้นและสร้างความตระหนักในค่านิยมที่ดีรวมถึงผลิตสื่อที่มีคุณภาพและมีความรับผิดชอบและเปิดพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ในประเด็นยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน รวมไปถึงการพัฒนาสังคมปลอดภัย คุณภาพชีวิตที่ดี และมีศักยภาพ

ซึ่งภายในงานมีนิทรรศการมากมายให้ประชาชนได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
อาทิ นิทรรศการประเพณีชักพระทางบกและทางน้ำ กิจกรรมทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเผยแพร่ประเพณีวัฒธรรมให้เป็นที่รู้จักแก่บุคคลทั่วไปและนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ รวมไปถึงนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28กรกฎาคม 2565 และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานนามเมืองสุราษฎร์ธานี แสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อสถานบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อีกทั้งเพื่อเป็นการเสริมสร้างจิตสำนึกและค่านิยมเชิงบวกสู่สังคมคุณธรรมอีกด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2565 เวลา 07.30 น.

นายวิชวุทย์ จินโต  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี  เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 71 รูป  โดยมี นางอุรสา จินโต ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายศักดาพร รัตนสุภา  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดฯ ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิธี

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชน ร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจำนวน 100,000 ตัว ลงแม่ตาปี ณ บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำตาปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2565 อีกทั้งเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้