วันที่ 11 กรกฎาคม 2565  เวลา 08.30 น.  ณ ห้องบรรจงแกรนด์บอลรูม 9-10 โรงแรมบรรจงบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาทางวิชาการสันนิบาตเทศบาลภาคใต้ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2565 

โดยการจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการสันนิบาตเทศบาลภาคใต้ในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนา จำนวน 900 คน ประกอบด้วย นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี ประธานสภาเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล ปลัดเทศบาล และพนักงานเทศบาล ของเทศบาลสมาชิกสันนิบาตเทศบาลในภาคใต้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าประชุมสัมมนาได้รับความรู้และความเข้าใจในด้านกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาท้องถิ่น และเพื่อให้ผู้เข้าประชุมสัมมนาระดมความคิดเห็น นำเสนอปัญหาหรืออุปสรรค พร้อมแนวทางแก้ไข โดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการพัฒนาท้องถิ่น รวมทั้งเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ เสริมสร้างความสามัคคี และความสัมพันธ์อันดีระหว่างเทศบาลกับหน่วยงานอื่นๆ ด้วย โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มาให้ความรู้ อาทิเช่น รองศาสตราจารย์ ดร.วีระศักดิ์ เครือเทพ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์ ดร.จรัส สุวรรณมาลา นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาและอดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย นายถวิล ไพรสณฑ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการกระจายอำนาจและกฎหมายท้องถิ่น และนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย มาบรรยายให้ความรู้

ในการนี้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต 1 หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี ท้องถิ่นจังหวัดสุราษฎร์ธานี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และผู้แทนส่วนราชการ ร่วมให้การต้อนรับและร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาด้วย

วันที่ 11 กรกฎาคม 2565  ณ ลานวัดไทร ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายประเวศ ไทยประยูร รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการจัดกิจกรรมจิตอาสา "พัฒนาทำความสะอาดตลาดศาลเจ้าและวัดไทร" เนื่องในวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จิตอาสาพระราชทาน นักเรียนนักศึกษา อาสาสมัคร และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว เพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี/และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทางมาถึงพิธีประธานเดินขึ้นเวทีประจำจุดด้านหน้าโต๊ะหมู่พระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ถวายความเคารพ พระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โต๊ะหมู่พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประธานเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ หน้าพระบรมฉายลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และผู้เข้าร่วมพิธี ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และกล่าวคำปฏิญาณว่า "เราทำความดี ด้วยหัวใจ"พร้อมกัน 3 ครั้ง แล้วยกมือขวาขึ้น แล้วกล่าวคำว่า เฮ้ จิตอาสาพระราชทาน และประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมแยกย้ายปฏิบัติกิจกรรมตามโซนและถ่ายภาพร่วมกัน และร่วมฉีดน้ำล้างทำความสะอาดตลาดศาลเจ้า เก็บขยะ กวาดลานวัดบริเวณโบสถ์ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 " อย่างเคร่งครัด
เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2175 /เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พุทธศักราช 2199 เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พุทธศักราช 2231 รวมพระชนมายุได้ 56 พรรษา พระราชกรณียกิจด้านต่างประเทศ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ในบูรพาประเทศเพียงพระองค์เดียว/ที่เป็นมิตรและสนิทสนมกับชาวยุโรป เป็นผลให้เกิดการถ่ายเทอารยธรรม/ ยังความเจริญในด้านการค้า/การศึกษา/ วิทยาศาสตร์/ และสถาปัตยกรรมแก่สยามประเทศ/ ทรงสร้างความเจริญรุ่งเรือง และความยิ่งใหญ่ให้แก่กรุงศรีอยุธยาเป็นอย่างมาก/ ในยุคสมัยของพระองค์ท่านนั้น มีการล่าอาณานิคมกัน อย่างแพร่หลายไทยเองเป็นเป้าหมายหนึ่งของอังกฤษ / เพื่อให้บ้านเมืองพันวิกฤตินี้ /สมเด็จพระนารายณ์มหาราชจึงทรงส่งราชทูตนำพระราชสาสน์ไปเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ของฝรั่งเศส / เพื่อให้อังกฤษไม่กล้าบุกรุกกรุงศรีอยุธยาในสมัยนั้น ทางด้านการเมืองการปกครองการทหาร /ทรงเป็นกษัตริย์นักรบผู้กล้าหาญ/ ทรงบริหารบ้านเมืองให้พ้นจากการล่าอาณานิคมของประเทศตะวันตกได้อย่างงดงาม/ทรงสนับสนุนการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับนานาประเทศ/ ทำให้กรุงศรีอยุธยามีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก/ มีอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ ที่ทันสมัยมาใช้ในกองทัพด้านการศึกษาและวรรณคดี /ทรงโปรดให้ตั้งโรงเรียนสอนหนังสือที่ทันสมัย/
รวมถึงส่งเสริมให้มีการจัดทำตำราเรียนภาษาไทยขึ้นเป็นเล่มแรกของสยามประเทศนอกจากนี้ยังเป็นยุคที่รุ่งเรืองของวรรณคดี/ เพราะพระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถทางด้านกวีอย่างยอดเยี่ยม /อีกทั้งยังทรงให้จัดสร้างพจนานุกรมไทย-ฝรั่งเศสขึ้นเป็น
ครั้งแรกอีกด้วยเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ /พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว/ทรงพระราชทานโครงการจิตอาสาพระราชทาน/ ด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่า/ปรองดอง/สามัคคี/
ร่วมมือร่วมใจ/ประกอบกิจกรรมสาธารณะ/เพื่อประโยชน์สุขของชุมชนส่วนรวม/โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน/ ให้มีความรักความผูกพันของ 4 สถาบันหลักของชาติ/ คือสถาบันชาติ/ สถาบันศาสนา/ สถาบันพระมหากษัตริย์/และประชาชน เป้าหมาย/และทำงานด้วยความระมัดระวังคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ/ที่ทรงมีต่อเหล่าปวงชนชาวไทย/ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย/จะขอสืบสานพระราชปณิธาน/ด้วยความจงรักภักดี/จะยึดมั่นในการปฏิบัติดีรักษาชาติบ้านเมือง /และสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ /และประชาชน สนองพระมหากรุณาธิคุณ ตลอดไป.

วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 

นี่เป็นภาพบรรยากาศของพิธิเปิดงานเกษตรแฟร์ Co.op สุราษฎร์ธานี 2565 อย่างยิ่งใหญ่อลังการ โดยทุกปีแขกผู้เข้าร่วมงานต่างแต่งตัวกันมาในคอนเซป คาวบอย ปีนี้ก็เช่นเคย ที่นำด้วย นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายวิสูตร อินทรกำเนิด นายอำเภอพุนพิน นายชัยพร นุภักดิ์
เกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมไปถึง ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ประชาชน ที่เดินทางมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแก่พ่อค้าแม่ขายกันอย่างเนื่องแน่นซึ่งในงานหลักๆประกอบไปด้วย สินค้าโอทอปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ ของกินของใช้ สินค้าอุปโภคบริโภคนานาชนิด สัตว์เลี้ยงน่ารักๆ และที่ขาดไม่ได้คือพันธุ์ไม้นานาพรรณ รวมไปถึงนิทรรศการเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านการเกษตร ถือได้ว่างานนี้คับคั่งไปด้วยสินค้าหลากหลายชนิด ถูกใจสำหรับผู้บริโภคอย่างแน่นอน

สำหรับใครที่สนใจก็สามารถมาเที่ยวงานเกษตรแฟร์ Co.op สุราษฎร์ธานี 2565 โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 6-17กรกฎาคม ใครที่อยากจะไปชอปก็เดินทางกันไปได้เลยยังพอมีเวลา ให้ทุกท่านได้ไปเที่ยวกัน และคาดว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะสร้างเม็ดเงินให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นการคืนรายได้ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในปีที่ผ่านๆมา

ข้อมูลข่าวจาก :  สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี