Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีเร่งให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบเหตุวาตภัยในพื้นที่หมู่ที่ 1  หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3  หมู่ที่ 9 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ุ่วันที่ 30 มีนาคม 2565 เวลา 09.30 น. ณ พื้นที่หมู่ที่ 1  หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3  หมู่ที่ 9 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เร่งให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบเหตุวาตภัยในพื้นที่ พร้อมเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนหลังอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและวาตภัยในระยะนี้
จากกรณีเกิดเหตุลมกระโชกแรง ของวานนี้ (29มีค65) เป็นเหตุทำให้ต้นไม้ล้มทับถนน บ้านเรือนราษฎร และหอพัก ได้รับความเสียหายบางส่วน รวม 29 หลัง โดยเบื้องต้นทราบว่าไม่มีผู้บาดเจ็บและไม่มีผู้เสียชีวิต สถานที่เกิดเหตุบริเวณซอยปราโมทย์ ซอยร่วมพัฒนา ซอยราชครู และซอยบ้านพักผู้พิพากษา ในพื้นที่หมู่ที่ 1 , 2 , 3 , 9 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือทันที โดยได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ชมรมนักศึกษาอาสากู้ชีพ-กู้ภัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ให้การสนับสนุนเลื่อยยนต์ตัดกิ่งไม้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสุราษฎร์ธานี ดำเนินการตัดกระแสไฟ และเทศบาลตำบลขุนทะเล

โดยวันนี้ (30มีค65) เวลา 09.30 น. นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นางอุรสา จินโต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายจำนง สวัสดิ์วงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี นายกเทศมนตรีตำบลขุนทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เข้าการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุวาตภัย พร้อมมอบถุงยังชีพ วัสดุก่อสร้าง ในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จำนวน 3 หลัง คือ นางศิริ กรดเกล้า อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 48 ม.1 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 2.นางปราณี เซี่ยงฉิน อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 74 ม.1 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี และ3.นางสาวพรทิพย์ นามตาปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 265 ม.1 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ในการนี้ทางเหล่ากาชาดได้มอบเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจเบื้องต้นอีกด้วย สร้างความปราบปลื้มดีใจแก่ผู้ประสบภัยในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ภายหลังรับแจ้งเหตุวาตภัยเกิดขึ่นในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างทันท่วงที และ ในวันนี้ตนเองก็ได้นำคณะลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยการนำสิ่งของมามอบให้พร้อมทั้งมาให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนที่ประสบเหตุในครั้งนี้และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และวาตภัย ที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ภายหลังกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ มีประกาศให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง และประเทศมาเลเชีย ส่งผลให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 2 – 4 เมษายน 2565

จึงเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วม ขอให้เตรียมความพร้อมตามแผนเผชิญเหตุ ทรัพยากรกู้ภัย เครื่องจักรกล กำลังเจ้าหน้าที่ให้พร้อมปฏิบัติงาน อำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนางสาวพรทิพย์ นามตาปี หนึ่งในผู้ประสบภัย เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น แต่ไม่รุนแรงเท่ากับเมื่อ 50 กว่าปีก่อน เหตุภายุโซนร้อนแฮเรียด มหาตภัยแหลมตะลุมพุก ที่สร้างความเสียหายในส่วนของบ้านเรือนราษฎรเป็นวงกว้าง และมีเสียงที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก ส่วนครั้งนี้กังวลแค่แม่วัย100กว่าปี ที่อยู่ในบ้านเท่านั้นโชคดีที่ต้นไม้ไม่ล้มทับบ้านจึงปลอดภัยกันทุกคน แต่ด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และนายกเหล่ากาชาด พร้อมทั้งภาคส่วนต่างๆที่เข้ามาให้การช่วยเหลือทันที เพราะปกติจะติดตามภารกิจท่านผู้ว่าจากสื่อต่างๆ วันนี้เมื่อตนเองประสบภัยจึงได้รู้ว่าภาครัฐไม่เคยทอดทิ้งประชาชน

 

ข้อมูลข่าวจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

จังหวัดสุราษฎร์ธานีมอบต้นแบบลายผ้าประจำจังหวัด "ผ้ายกราชวัตรโคม" ให้กับนายอำเภอ 19 อำเภอ และกลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการประเภทผ้า นำไปพัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นถิ่น สร้างรายได้กระจายสู่ชุมชน

วันที่ 24 มีนาคม 2565 ณ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนางอุรสา จินโต ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมมอบต้นแบบลายผ้าประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี "ผ้ายกราชวัตรโคม" ให้กับนายอำเภอ 19 อำเภอ และกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการประเภทผ้าในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อนำไปเป็นต้นแบบและพัฒนาต่อยอด เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นถิ่น สร้างรายได้กระจายสู่ชุมชน

ทั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบหมายให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี ค้นหาหรือออกแบบลายผ้าประจำจังหวัด จำนวน 1 ลาย เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำหนังสือ "ภูษาศิลป์ จากท้องถิ่นสู่สากล" เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2565 จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการพิจารณาค้นหาหรือออกแบบลายผ้าประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 โดยที่ประชุมมีมติให้ผ้า "ลายราชวัตรโคมหรือราชวัตรดอกใหญ่" เป็นลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี

และเพื่อให้ผ้าลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี "ลายราชวัตรโคมหรือราชวัตรดอกใหญ่" ได้เป็นมรดกภูมิปัญญาพื้นถิ่น เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี จัดทำต้นแบบ "ผ้ายกราชวัตรโคม" ขึ้น และได้กำหนดจัดพิธีมอบต้นแบบลายผ้าให้กับนายอำเภอ และกลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการประเภทผ้าในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์แบบ "ผ้ายกลายราชวัตรโคม" ซึ่งเป็นลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้กับกลุ่มทอผ้าในจังหวัด ที่เป็นช่างทอผ้า กลุ่มทอผ้า และผู้ผลิตผ้า ทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค ได้นำลายไปเป็นต้นแบบและพัฒนา ต่อยอด เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นถิ่น นำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ กระจายสู่ชุมชนอย่างทั่วถึง เป็นวงจรเศรษฐกิจเชิงมหภาคต่อไป.

จังหวัดสุราษฎร์ธานีขับเคลื่อนการพัฒนาแรงงานและประสานการฝึกอาชีพ บูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานเครื่อข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

วันที่ 24 มีนาคม 2565 ณ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานการฝึกอาชีพจังหวัดสุราษฎร์ธานี (กพร.ปจ.สฏ.) ครั้งที่ 1/2565 ร่วมกับส่วนกลาง ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ (Application Zoom) เพื่อรับทราบนโยบายการพัฒนาปละประสานงานการฝึกอาชีพจังหวัด และพิจารณาแนวทางการพัฒนากำลังแรงงานในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามนโยบายและทิศทางที่คณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานการฝึกอาชีพแห่งชาติกำหนด

ด้านนายปรีชา แก้วเกื้อ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 11 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า บทบาทของคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพจังหวัด หรือ กพร.ปจ. ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 มีการดำเนินการที่สำคัญ คือ การจัดทำแผนพัฒนากำลังคนระดับจังหวัด ตลอดจนการดำเนินการตามแผนพัฒนากำลังคน อาทิ การเรียนการสอน การฝึกอบรม และการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน การรับรองความรู้ความสามารถ รวมถึงการพัฒนากำลังแรงงานในรูปแบบอื่น ตลอดจนการส่งต่อแรงงานไปสู่การจ้างงานในสถานประกอบการหรือการประกอบอาชีพอิสระ โดยบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานเครื่อข่าย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

นอกจากนี้ กพร.ปช.ขอความร่วมมือคณะอนุกรรมการ กพร.ปจ. ดำเนินการกำกับดูแลการทำแผนพัฒนากำลังคนระดับจังหวัด พ.ศ.2565 และ พ.ศ. 2566 – 2570 โดยมอบหมายเครือข่าย กพร.ปจ. ร่วมจัดทำแผนพัฒนากำลังคนดังกล่าว ให้ครอบคลุมทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา และหากจังหวัดใดมีการทบทวนแผนพัฒนาจังหวัด ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณานำแผนพัฒนากำลังคนระดับจังหวัดเข้าไปบรรจุไว้ในแผนพัฒนาจังหวัดด้วย เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาทักษะฝีมือ และศักยภาพของแรงงานทุกกลุ่มในทุกภาคส่วนของทุกจังหวัด.

ข้อมูลข่าวจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี

จังหวัดสุราษฎร์ธานีเตรียมการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศช่วงเทศกาลสงกรานต์ หวังลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน เกิดความปลอดภัยทุกการเดินทาง

วันที่ 23 มีนาคม 2565 ณ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุฯ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เกิดความปลอดภัยทุกการเดินทาง โดยเฉพาะช่วงคุมเข้มความปลอดภัยช่วงวันที่ 11 – 17 เมษายน 2565

นายวิชวุทย์ จินโต กล่าวว่า ช่วงเทษกาลสงกรานต์ เป็นช่วงที่ประชาชนใช้รถใช้ถนนในการเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนาและท่องเหี่ยวจำนวนมาก โดยแทบทุกพื้นที่ทั่วประเทศจะมีการจัดงานประเพณีทำบุญ งานรื่นเริงต่างๆ รวมทั้งกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ และมีรูปแบบการจัดกิจกรรมที่มีความหลากหลาย ทำให้ความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงปกติ ทั้งปัจจัยด้านคน ด้านถนน และยานพาหนะ ดังนั้นจึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัด บูรณาการการป้องกันและลดอุบัติเหตุฯ อย่างจริงจัง พร้อมกับมีคำสั่งจัดตั้งศูย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 ขึ้น ณ สำนักงาน ปภ.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้การดำเนินการบรรลุเป้าหมาย ทันต่อเหตุการณ์ และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยเร็ว

ทั้งนี้ จากการถอดบทเรียนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา พบว่าพฤติกรรมเสี่ยงและสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ใช้ความเร็วเกินกำหนด ขับรถไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่มีใบขับขี่ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และขับรถย้อนศร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้นำผลเชิงตัวเลข เชิงพฤติกรรม และปัญหาอุปสรรค ทำการวิเคราะห์และสรุปประเด็นปัญหาต่างๆ ให้แต่ละหน่วยนำไปแก้ไขปรับปรุง เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในภายภาคหน้าต่อไป

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ทางจังหวัดฯ ได้เน้นย้ำในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ถึงมาตรการลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ อาทิ การขับรถด้วยความเร็วที่กำหนด ปฏิบัติตามกฎจราจร เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม และงดการดื่มสุราของมึนเมา นอกจากนี้ขอให้ผู้ใช้รถ ใช้ถนน ขับรถมีน้ำใจและรักษาวินัยจราจร เพื่อช่วยลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน เกิดความปลอดภัยสูงสุดในการเดินทางตลอดช่วงเทศกาลต่างๆ

ข้อมูลข่าวจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!