วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.30 น. ณ ลานพระอนุสาวรีย์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต โรงพยาบาลสมเด็จ พระยุพราชเวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีประกาศ สดุดีวีรกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ครบรอบ 45 ปี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต และวางพวงมาลาต่อหน้าพระอนุสาวรีย์ฯ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน โดยมีหม่อมราชวงศ์ ปรียนันทนา รังสิต ธิดาพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต คุณปานศักดิ์ รังสิพราหมณกุล กรรมการและเลขานุการมูลนิธิ วิภาวดีรังสิต พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่นและประชาชน เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้

ทั้งนี้เมื่อครั้งในอดีตพระองค์ท่าน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้รับราชการในตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยได้ตามเสด็จอย่างใกล้ชิดไม่ว่าจะเสด็จ เยือนต่างประเทศหรือ เยี่ยมเยียนพสกนิกรชาวไทย โดยไม่ทรง ย่อท้อต่อความเหนื่อยยากลำบาก และมีพระทัยตั้งมั่นเพื่อช่วยเหลือประชาชนในถิ่นทุรกันดาร โดยที่พระองค์ท่านได้ทรงประกอบพระกรณียกิจ อันเป็นคุณประโยชน์แก่มวลประชาชนชาวไทย จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ในพื้นที่ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2520 ในขณะที่ทรงปฏิบัติภารกิจตรวจเยี่ยม บำรุงขวัญ ตำรวจ ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี
จนเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2520 พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการสถาปนา "หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต" เป็น "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต"

ในการนี้ คณะผู้ร่วมในพิธีได้วางพวงมาลา และร่วมมอบสิ่งของ แก่ผู้สูงอายุในพื้นที่อีกด้วย โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีการจัดพิธี "วันวิภาวดี" ตรงกับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เพื่อให้ข้าราชการ และประชาชนชาวสุราษฎร์ธานี สำนึกในพระกรุณาธิคุณ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ที่ทรงมีต่อเหล่าพสกนิกร ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และประเทศชาติสืบไป

ข้อมูลข่าวจาก :  สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า ได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมกับประสานส่วนกลางและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดเป็นนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ยังได้จัดสร้างเครือข่ายราชการในการแก้ไขปัญหา โดยให้ทุกหน่วยงานประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติเพื่อรับฟังปัญหา และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในทันทีที่เกิดการร้องเรียน หากเกินกว่าอำนาจ หรือไม่อาจดำเนินการได้ ก็จะได้แนะนำให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้สามารถยุติเรื่องได้โดยเร็ว

ทั้งนี้หากประชาชนต้องการร้องเรียน ร้องทุกข์ สามารถแจ้งได้ด้วยตนเองที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัด (หลังใหม่) หมายเลขโทรศัพท์ 077 - 206683 หรือสายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง.

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ณ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชั้น 3 อาคารสำนักงานส่วนราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏร์ธานี ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 2 /2565 โดยมีนายสุธีรวัชร์ เจริญวงศ์ อนุกรรมการและเลขานุการฯ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ซึ่งที่ประชุมมีการรับทราบผลการดำเนินงานตามมติที่ประชุมของเดือนมกราคม 2565 โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้มีมติจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย จำนวน 16 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,117,540 บาท
ทั้งนี้ ทางสำนักงานฯ ยุติธรรมจังหวัดฯ ได้ประสานผู้มีสิทธิรับเงินมากรอกแบบคำขอรับเงินฯ เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาคำขอรับเงินค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 20 ราย แยกเป็น ผู้เสียหาย 19 ราย และจำเลย 1 ราย โดยผลการประชุมพิจารณาจ่ายเงิน จำนวน 9 ราย เป็นเงิน 454,000 บาท งดจ่าย 4 ราย และยกคำขอ 6 ราย เนื่องจากไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับจำเลย 1 รายที่ประชุมมีมติให้ยกคำขอ เนื่องจากข้อเท็จจริงฟังไม่เป็นการยุติว่าจำเลยมิได้เป็นผู้กระทำความผิดหรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด ตามมาตรา 20 (3) แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559.