สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดประชุมหารือภาคีเครือข่ายทางสังคมเพื่อเตรียมการขับเคลื่อนจังหวัดคุณธรรม "จังหวัดสุราษฎร์ธานี" ปีที่ 3 ภายใต้โครงการสมัชชาคุณธรรมและแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2559 - 2564) โดยจัดขึ้น ณ ห้องประชุมศรีวิชัย CD โรงแรมวังใต้ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุมพร้อมกับให้โอวาทและแนวทางการดำเนินการขับเคลื่อนจังหวัดคุณธรรม มีผู้แทนศูนย์คุณธรรม ผู้บริหาร ผู้แทนส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน องค์กรเครือข่ายทางสังคมทุกภาคส่วนทั้ง 8 เครือข่าย และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงกัน

โดยนายธธงชัย สารอักษร วัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้บูรณาการความร่วมมือกับศูนย์คุณธรรม และองค์กรภาคีเครือข่ายทางสังคมทุกภาคส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินโครงการขับเคลื่อนคุณธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้โครงการสมัชชาคุณธรรมและแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 – 2564 มีการดำเนินงานสนับสนุนการขับเคลื่อนจังหวัดคุณธรรมผ่านกลไกคณะทำงานขับเคลื่อนสังคมคุณธรรม 8 เครือข่าย มีการบูรณาการความร่วมมือด้านวิชาการกับสถาบันอุดมศึกษาในจังหวัด มีการจัดอบรมหลักสูตรวิทยากรส่งเสริมคุณธรรม (ระดับCoach) ภายใต้โครงการส่งเสริมเครือข่ายทางสังคมต่อต้านการทุจริต ด้วยมิติทางวัฒนธรรมและมิติด้านสังคม มีการขับเคลื่อนกิจกรรมความดีผ่านเวทีสมัชชาคุณธรรม และตลาดนัดคุณธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งมีการวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรค ปัจจัยความสำเร็จ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณธรรมเชิงพื้นที่ พร้อมทั้งจัดทำข้อเสนอในการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดคุณธรรมสุราษฎร์ธานี ในระยะถัดไป

นายธธงชัย สารอักษร กล่าวต่ออีกว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นจังหวัดคุณธรรมต้นแบบในปีที่ 3 จึงได้กำหนดจัดการประชุมหารือภาคีเครือข่ายทางสังคม เพื่อเตรียมการขับเคลื่อนจังหวัดคุณธรรม"จังหวัดสุราษฎร์ธานี" ปีที่ 3 เพื่อให้การขับเคลื่อนกลไกเครือข่ายทางสังคมจังหวัดสุราษฎร์ธานีของ 8 เครือข่าย เกิดความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เกิดการผนึกกำลังบูรณาการทั้งทรัพยากร องค์ความรู้ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกื้อหนุนการทำงานซึ่งกันและกัน อันจะก่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างมีพลังในภาพรวมของเครือข่าย และจังหวัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 รวมถึง จัดทำแผนการขับเคลื่อนจังหวัดคุณธรรมปีงบประมาณพ.ศ.2565 ให้เกิดความต่อเนื่อง สู่ความยั่งยืน ที่สอดคล้องกับประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือการขับเคลื่อนจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดคุณธรรม ซึ่งทุกหน่วยงานได้ร่วมประกาศเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา.

วันที่ 21 ธันวาคม 2564 

นายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะทำงานจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในส่วนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2564 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามโครงการ คทช. แปลง ป่าใสท้อน และป่าคลองโชง ตำบลสองแพรก อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ตามที่อนุกรรมการจัดที่ดิน กรมที่ดินได้มีหนังสือกรมที่ดิน ด่วนที่สุดที่ดิน ได้รับข้อมูลพื้นที่เป้าหมายดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล และคทช. ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าใสท้อนและป่าคลองโช ตำบลสองแพรก อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามกระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งที่ดินแปลงนี้เป็นการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ในพื้นที่เขตสงวนแห่งชาติ คทช.ได้วางแนวทางและหลักเกณฑ์การปฏิบัติดังนี้ กระบวนการการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) พื้นที่ดำเนินการเป็นที่ดินในพื้นป่าสงวนแห่งชาติประกอบด้วย 1.หลักเกณฑ์การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์เป็นการนำที่ดินของรัฐที่มีผู้ใช้ประโยชน์มาจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ (1) จัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในรูปแปลงรวม ตามสภาพพื้นที่ตามเขตการปกครอง
(2) การใช้ประโยชน์ในที่ดินให้เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ ซึ่งได้ผ่านความเห็นขอบ
คทช.แล้ว (3) จัดที่ดินให้แก่ผู้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่อยู่แล้วตามที่ครอบครองอยู่จริงแต่ไม่เกิน 20 ไร่ หากมีพื้นที่เหลือหรือพื้นที่ที่ไม่มีผู้ทำประโยชน์จึงจะจัดให้ผู้ที่ถูกผลักดันและอพยพออกจากพื้นที่ป่า และผู้มีถิ่นที่อยู่ในท้องที่ที่จะจัดที่ดินหรือใกล้เคียง โดยพิจารณาจากหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ตามลำดับ ตามเกณฑ์การตรวจสอบข้อมูลการถือครองและแนวทางการจัดที่ดินที่ คทช. เห็นชอบ (๔) ให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินนำที่ดินดังกล่าวเพื่อเป็นการควบคุมและร่วมกันดูแลรักษาพื้นที่ป่าไม้ และดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลโดยร่วมกับ คทช.จังหวัด เพื่อดำเนินการจัดที่ดินให้แก่ราษฎรที่มีคุณสมบัติและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ คทช.เห็นชอบ

1. ประเภทของผู้ที่ได้รับการจัดที่ดิน (1) ผู้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่อยู่แล้วเป็นไปตามผลการตรวจสอบข้อมูลรูปแปลงที่ดิน และข้อมูลของรายชื่อราษฎรผู้ครอบครองโดย คทช.จังหวัด สำหรับผลการตรวจสอบของ คทช.จังหวัด ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติสามารถจำแนกประเภทผู้ที่ได้รับการจัดที่ดินตามลักษณะการครอบครองได้ดังนี้ คือ ผู้ครอบครองรายเดิมชื่อตรง/แปลงตรงให้เข้าร่วมโครงการฯ และผู้ครอบครองชื่อไม่ตรง (ทายาทผู้ครอบครองรายเดิม) แปลงตรง ให้เข้าร่วมโครงการฯ

ผู้ครอบครองรายใหม่/มีการเปลี่ยนมือ ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ครอบครองไม่ปรากฏชื่อผู้ครอบครองมีการใช้ที่ดินแต่ไม่พบตัวให้คทช.จังหวัด ตรวจสอบเพิ่มเติมผลการตรวจสอบเป็นคนเดิมเข้าสู่ประเภทผู้ครอบครองรายเดิม/ทายาท กรณีเป็นคนใหม่เข้าสู่ประเภทผู้ครอบครองรายใหม่/มีการเปลี่ยนมือ (2) ผู้ที่ถูกผลักดันและอพยพออกจากพื้นที่ป่า (3) ผู้มีถิ่นที่อยู่ในท้องที่ที่จะจัดที่ดินหรือใกล้เคียง โดยพิจารณาจากหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ตามลำดับ 3.คุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการจัดที่ดิน (1) บุคคลสัญชาติไทย (2) เป็นผู้ยากไร้ไม่มีที่ทำกิน และ/หรือที่อยู่อาศัย หรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท/คน (3) บรรลุนิติภาวะแล้ว หรือเป็นหัวหน้าครอบครัว (4) มีถิ่นที่อยู่ในท้องที่ที่จะจัดที่ดินหรือใกล้เคียง (5) มีความสามารถทำประโยชน์ในที่ดินได้ (6) ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ (7) ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด และเงื่อนไขที่กำหนด กรณีที่คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดพิจาณาเห็นเป็นความจำเป็น เพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ สังคมและความสงบเรียบร้อย โดยคำนึงถึงลักษณะพื้นที่สภาพการใช้ประโยชน์ทำประโยชน์ คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) จะผ่อนผันการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เป็นการเฉพาะรายก็ได้.

วันที่ 21 ธันวาคม 2564 เวลา 08.30 น.

นายศักดาพร รัตนสุภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ออกรายการ "ผู้ว่าฯคุยกับประชาชน" และ "รายการแหลงข่าวชาวใต้" (โฟนอิน) เพื่อประชาสัมพันธ์สถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การจัดงาน การรณรงค์และเฝ้าระวังอุบัติเหตุและโควิด - 19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมไปถึงการช่วยเหลือประชาชนหลังภาวะอุทกภัยด้วย

ณ ห้องปฎิบัติงาน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชั้น 2