ใช้การกรอง

Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

จ.สุราษฎร์ธานีประชุมคณะอนุกรรมการประกันสังคมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่1/2565

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565  ณ ห้องประชุมสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสุราษฎร์ธานีชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะอนุกรรมการประกันสังคมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่1/2565 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
ก่อนประชุมนายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบโล่ประกาศเกียรติให้กับเครือข่าย บวรดีเด่น กลุ่มสมาชิกบ้าน วัด โรงเรียน และโรงงาน ประจำปี 2564 ได้แก่ นางวิจิตรา อนุกูล กลุ่มสมาชิกบ้าน และนายเดชา ไทยมานิตย์ กลุ่มสมาชิกโรงเรียน
สำหรับการประชุมในวันนี้คณะอนุกรรมการจะพิจารณาผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพ จำนวน 5 ราย ได้แก่ผู้ประกันตนราย นายสุชาติ รัตนพันธ์ ข้อเสนอเห็นควรกำหนดให้เป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2564 ผู้ประกันตนมีสิทธิรับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 2,400 บาทตลอดชีวิต ค่าบริการทางการแพทย์ ตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฯ ค่าพาหนะเหมา จ่ายเดือนละ 500 บาท คืนเงินบำเหน็จชราภาพ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 45,618.78 บาท ผู้ประกันตนรายนางศศิญา ยี่หวา เห็นควรกำหนดให้เป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ เดือนละ 650 บาท เป็นระยะ 15 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2579 ผู้ประกันตนราย นายประภาษ สวนกูล เห็นควรกำหนดให้เป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ เดือนละ 2,695 บาท ตลอดชีวิต ค่าบริการทางการแพทย์ ตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฯ ค่าพาหนะเหมา จ่ายเดือนละ 500 บาท คืนเงินบำเหน็จชราภาพ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 174,632.51 บาท ผู้ประกันตนราย นายประเสริฐ พยุครัมย์ เห็นควรกำหนดให้เป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2564 ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ เดือนละ 2,400 บาท ตลอดชีวิต ค่าบริการทางการแพทย์ ตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฯ ค่าพาหนะเหมา จ่ายเดือนละ 500 บาท คืนเงินบำเหน็จชราภาพ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 12,254.08 บาท และผู้ประกันตนราย นางนพรัตน์ สุวรรณวงศ์ เห็นควรกำหนดให้เป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ เดือนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 15 ปี ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน ถึงวันที่ 25 เมษายน 2579 และประชุมการขับเคลื่อนการคุ้มครองประกันสังคมมาตรา 40ต่อไป.

จ.สุราษฎร์ธานีร่วมขับเคลื่อนแผนปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการต่อต้านการทุจริต

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ห้องประชุมเมืองคนดี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมให้การต้อนรับนายประชา เตรัตน์ กรรมการ สปท. ป.ป.ท. และประธานอนุกรรมการสร้างความเข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน(สปท. ป.ป.ท.) ในโอกาสที่นำคณะลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี บูรณาการขับเคลื่อนกิจกรรมตามแผนปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (Big Rock) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการต่อต้านการทุจริต จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐจากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค องค์กรเอกชน เครือข่ายภาคประชาชน และผู้เกี่ยวข้อง

นายประชา เตรัตน์ ประธานอนุกรรมการ สปท. ป.ป.ท. กล่าวว่า ปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทยมานาน และมีลักษณะซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน รวมทั้งการทุจริตได้มีการปรับรูปแบบจากเดิมที่เป็นการทุจริตทางตรงเป็นการทุจริตเชิงนโยบายที่มีการแก้กฎหมาย ระเบียบหรือนโยบายให้เป็นประโยชน์กับตนเองและพวกพ้องมากยิ่งขึ้น ประกอบกับกลไกภาครัฐไม่สามารถปฏิบัติงานภายใต้กรอบธรรมาภิบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่สามารถระงับยับยั้งปัญหาในระดับปฏิบัติได้เท่าที่ควร ทำให้การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาขาดประสิทธิภาพและเป็นไปอย่างล่าช้า ตลอดจนมีพฤติกรรมการอุปถัมภ์ระหว่างกัน ส่งผลให้การปราบปรามการทุจริตไม่สัมฤทธิ์ผล

นายประชา เตรัตน์ กล่าวด้วยอีกว่า ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะได้มีความพยายามในการแก้ปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบมาโดยตลอด แต่ปัญหาดังกล่าวกลับมีความรุนแรงและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้บรรเทาลง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้กำหนดให้รัฐมีหน้าที่ในการวางกลไกป้องกัน ตรวจสอบ และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบที่เข้มงวด เด็ดขาด และต้องส่งเสริมสนับสนุน และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงภัยที่เกิดจากการทุจริต ตลอดจนจัดให้มีกลไกที่มีประสิทธิภาพและกลไกในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อสอดส่องและป้องกันการทุจริตอีกทางหนึ่งด้วย.

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โปรดให้นายวิชวุทย์ จินโต เป็นผู้เชิญสิ่งของพระราชทาน ไปมอบให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคในสุกรในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ศาลาประชาคม อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โปรดให้นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้เชิญสิ่งของพระราชทาน ไปมอบให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคในสุกรในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนายอำเภอในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เป็นตัวแทนเข้ารับมอบเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และนำส่งต่อไปยังเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้ด้วยในหลายพื้นที่ของประเทศไทย เกิดการระบาดของโรคในสุกร ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก และจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีการประกาศกำหนดเขตเฝ้าระวังโรค ASF ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2564 ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการตรวจพบการระบาดของโรค PRRS (Porcine respiratory and reproductive syndrome) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการของโรคในระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินหายใจในสุกร ทำให้แม่สุกรแท้ง ลูกตายแรกคลอดสูง ในพื้นที่ 13 อำเภอ ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรจำนวน 3,534 ราย ในพื้นที่ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานีในปี 2564 ได้รับผลกระทบจำนวน 189 ราย ประกอบด้วย อำเภอกาญจนดิษฐ์ 88 ราย อำเภอดอนสัก 5 ราย อำเภอบ้านนาสาร 8 ราย อำเภอพระแสง 2 ราย อำเภอวิภาวดี 18 ราย อำเภอท่าฉาง 22 ราย อำเภอพุนพิน 13 ราย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี 4 ราย อำเภอบ้านนาเดิม 9 ราย อำเภอเวียงสระ 2 ราย อำเภอชัยบุรี 6 ราย อำเภอบ้านตาขุน 5 ราย และอำเภอคีรีรัฐนิคม 6 ราย รวมสุกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด จำนวน 11,951 ตัว จากการเลี้ยงทั้งหมดจำนวน 227,904 ตัว

และจากปัญหาดังกล่าว สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้ทรงห่วงใยพสกนิกร จึงได้พระราชทานสิ่งของพระราชทาน จำนวน 100 ชุด มาช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ยังความปลาบปลื้มและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพัน ที่พระองค์ท่านทรงมีพระเมตตาต่อเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบ.

ผู้ว่าสุราษฎร์ ควง นายกเหล่ากาชาด หั่นจระเข้ และไก่สด ปันสุขประชาชน รับเทศกาลตรุษจีน

วันที่ 30 มกราคม 2565 เวลา 07.30 น. ณ บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมนางอุรสา จินโต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายจักรกฤษ ฝั่งชลจิต นายอำเภอดอนสัก นายอิทธิพล ขวาไทย ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งข้าราชการ และจิตอาสา ได้นำสิ่งของตู้ปันสุขผู้ว่าฯสุประกอบด้วย เครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และอาหารแช่แข็ง จำนวน 850 ชุดและของเด็กอีก 120 ชุด ราษฎร์ และถุงปันสุขจาก บริษัท หาดทิพย์ จำกัด มหาชน อีกหนึ่งจำนวน มอบช่วยเหลือประชาชนเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ความเดือดร้อนในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19

ทั้งนี้ การแจกสิ่งของปันสุขในสัปดาห์นี้เป็นที่ฮือฮาเนื่องจากได้นำเนื้อจระเข้ชำแหละ 1 ตัว ไก่สดอีก จำนวน 500 ตัวและชิ้นส่วนไก่ชำแหละอีกจำนวนหนึ่ง นำมาแจกให้กับประชาชนด้วย ซึ่งมีผู้มารับบัตรคิวตั้งแต่เวลา 04.00 น.(ตี 4)เป็นจำนวนมากด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

สำหรับตู้ปันสุขผู้ว่าฯสุราษฎร์ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ดำเนินการมาตั้งแต่การระบาดโควิด-19 ระลอกแรก ช่วงต้นปี 2563 โดยตั้งตู้ปันสุขที่ริมถนนหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ประชาชนที่เดือดร้อนมารับสิ่งของไปใช้ในครัวเรือน กระทั่งมีประชาชนและผู้ประกอบการ นำสิ่งของและอาหารปรุงสุกมาสมทบมากขึ้นจึงเพิ่มเป็น 2 ตู้และมีการขยายแจกสิ่งของเป็นทุกเช้าวันอาทิตย์ต่อเนื่องเรื่อยมาเป็นเวลาร่วม 2 ปีที่มีตู้ปันสุขเพียงแห่งเดียวที่ยังคงแจกอยู่

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!