วันที่ 12 กันยายน 2567 เวลา 10.00 น. ณ อาคารศูนย์กลางการประชุมสัมมนาภาคใต้ตอนบน ศาลาลกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีมอบหนังสือพระราชทาน สารานุกรมสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เล่ม 44 ฉบับพระราชทาน แก่โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 144 แห่ง โดยเข้ารับมอบเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์อย่างพร้อมเพรียงกัน

สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เป็นหนังสือเล่มเดียวที่มีพระราชประสงค์ให้ทุกคนได้อ่าน เนื่องจากเป็นสารานุกรมแบบไทยที่คนไทยทำ โดยทรงกำหนดหลักการของการบรรจุสรรพวิชาและเนื้อหา เพื่อตอบสนองความสามารถในการอ่านของเยาวชนในแต่ละระดับด้วยพระองค์เอง ทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้ ความคิด ความฉลาด และความดี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต อันจะช่วยบุคคลสามารถให้ประโยชน์แก่ส่วนรวม และสามารถพึ่งพาส่วนรวมได้ในอนาคตโดยพระราชประสงค์นี้สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ จึงมีการออกแบบในแต่ละเล่มให้มีสาระความรู้ที่หลากหลายอย่างน้อย 9 เรื่องสำคัญ เป็นการสนองความต้องการของเยาวชนที่จะ ค้นคว้าสาระวิชาต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองอย่างหลากหลายในแต่ละเล่ม และนำไปอ้างอิงได้ พระมหากรุณาธิคุณนี้จะปกแผ่พสกนิกรไปชั่วนิรันดร์

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ในการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยการนำเอาองค์ความรู้ที่แตกต่างกันตามหมวดสาขาวิชาต่างๆ ให้นักวิชาการ ผู้รู้ ช่วยกันเรียบเรียงในภาษาที่ง่าย เผยแพร่ไปสู่เด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ ในทุกจังหวัด ทำให้ทั้งผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ เด็ก และเยาวชน ได้มีโอกาสในการที่จะแสวงหาองค์ความรู้ที่แตกต่างหลากหลาย ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการที่จะทำให้เด็กสามารถเติบใหญ่ และทำให้ผู้ใหญ่สามารถแนะนำลูกหลาน ให้มีความรู้และความเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และที่สำคัญที่สุด ทรงมีพระราชดำริให้จัดทำสารานุกรมในรูปแบบ E-Book ด้วย อันจะยิ่งทำให้สามารถทำให้เรื่องราวต่าง ๆ ในสารานุกรมสามารถแพร่กระจายไปสู่ประชาชนทุกวัยได้โดยง่าย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานให้กับพวกเราชาวไทย

วันที่ 11 กันยายน 2567 เวลา 10.30 น.

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง และคณะผู้บริหารระดับสูง ที่เข้าร่วมกิจกรรมการประชุมเพื่อพัฒนางาน ยกระดับมาตรฐานการทำงาน และการบริหารจัดการภายใน ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 - 13 กันยายน 2567 ณ โรงแรมแก้วสมุยรีสอร์ท อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดยการประชุมดังกล่าว จัดขึ้นภายใต้กรอบแนวคิดการพัฒนากระบวนการทำงานทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์ เป็นการะดมความคิดเห็นจากผู้บริหารทั้งส่วนกลางและส่วนจังหวัด ทำให้ทราบถึงปัญหา อุปสรรค แนวทางต่างๆ เพื่อให้มองเห็นภาพการบริหารจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในทุกมิติ สามารถนาไปเป็นแนวทางในการบริหารและเสนอแนะแนะแนวทางการแก้ไขรูปแบบการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการวิพากษ์คู่มือการจัดการเลือกตั้งทุกระดับ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับเนื้อหาให้ถูกต้องที่สุด ใช้เป็นคู่มือในการจัดการเลือกตั้งให้กับผู้บริหารและผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดต่อไป

สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการ ผู้อำนวยการสำนัก และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 150 คน

วันที่ 11 กันยายน 2567 เวลา 13.40 น. ณ ห้องประชุมศรีสุราษฎร์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีรับพระราชทานเข็มเครื่องหมายกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ แก่คณะกรรมการมูลนิธิประจำจังหวัด ประกอบด้วย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายอำเภอชัยบุรี และนายอำเภอวิภาวดี

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2505 จากเหตุการณ์วาตภัยพายุโซนร้อนแฮเรียต ที่พัดเข้าทางพื้นที่แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ความแรงของพายุทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนของประชาชนและประชาชนจำนวนมากต้องกลายเป็นผู้ประสบภัย ได้รับความเดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อความทรงทราบฝ้าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สถานีวิทยุ อ.ส. ออกประกาศเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์และสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยภัยดังกล่าวและพระราชทานเงินแก่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนำไปสร้างโรงเรียนประชาบาล เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มีสถานที่ศึกษา และพระราชทานชื่อในภายหลังว่าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ เมื่อได้นำเงินบริจาคช่วยเหลือประชาชนในระยะแรกแล้ว ยังคงเหลือเงินอีก 3 ล้านบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร จึงพระราชทานเงินดังกล่าวเป็นทุนประเดิมก่อตั้งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2506 โดยชื่อพระราชทานของมูลนิธิฯ มีความหมายว่า"พระราชา" และ "ประชาชน" อนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เข้าเฝ้ารับพระราชทานเข็มเครื่องหมายประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด และเป็นผู้แทนรับพระราชทานเข็มเครื่องหมายกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ เนื่องในโอกาสครบ 60 ปี วันพระราชทานกำเนิดมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ ศาลาดุสิดาลัย
สวนจิตรลดา กรุงเทพมหานคร และเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯกำหนด มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้ให้จังหวัดแจ้งขอรับพระราชทานเข็มเครื่องหมายกรรมการมูลนิธิประจำจังหวัด ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง โยกย้ายตำแหน่ง หรือมีผู้ที่เข้าดำรงตำแหน่งแทนผู้เกษียณอายุราชการ หรือมีผู้ที่ไม่เคยได้รับพระราชทานเข็มไปยังสำนักงานมูลนิธิฯ ส่วนกลางโดยจังหวัดได้แจ้งรายชื่อกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด จำนวน 3 ราย และมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้จัดส่งเข็มเครื่องหมายกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด เพื่อให้จังหวัด จัดพิธีรับพระราชทานเข็มเครื่องหมายกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์
ประจำจังหวัด แก่คณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด ประกอบด้วย พลตำรวจตรี เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายชยันต์รัฐ รุ่งโรจน์วรารักษ์ นายอำเภอชัยบุรี และนายวัยวัธน์ ศรีเพชรพูล นายอำเภอวิภาวดี.