Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำทีม ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกลุ่มเปราะบาง ในพื้นที่ตำบลท่าอุแท อำเภอกาญจนดิษฐ์

 
วันที่ 15 ธันวาคม 2567
นายธีรุตน์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายพูลศักดิ์ โสภณปทุมรัตน์ นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายณัฐพร รักบำรุง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตัวแทนผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่ บ้านดอนหลวง หมู่ที่ 1 ตำบลท่าอุแท อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ ติดตามความเป็นอยู่ยามค่ำคืนของชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย พร้อมกับ มอบสิ่งของจำเป็น เช่นอาหารแห้ง ข้าวสาร น้ำดื่มสะอาด ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางในพื้นที่
สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ได้รับผลกระทบมาประมาณสองวัน มาแล้วเนื่องจาก มวลน้ำจากต้นน้ำรอยต่อจังหวัดนครศรีธรรมราชกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้หลากมาจนถึงพื้นที่ดังกล่าว ก่อนระบายลงสู่ทะเล แต่เนื่องจากช่วงนี้ มีน้ำทะเลหนุน ประกอบกับตลอดทั้งวันนี้ มีฝนตกลงมาเพิ่มในพื้นที่ ทำให้ระดับน้ำลดลงอย่างช้าๆ แต่หากปริมาณฝนลดลง และน้ำทะเลลง สถานการณ์ก็จะเริ่มคลี่คลาย
ด้านประชาชนผู้ประสบภัยแม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากในการดำเนินชีวิตเมื่อได้เห็นผู้บริหารของจังหวัดลงไปเยี่ยมเยือนและให้กำลังใจต่างมีรอยยิ้ม พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในสถานการณ์อุทกภัย พร้อมกล่าวขอบคุณที่เดินทางเข้าไปให้กำลังใจถึงพื้นที่
ขณะที่ นายธีรุตน์ ศุภวิบูลย์ผล ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ตลอดจน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยประชาชนในภาคใต้และได้เน้นย้ำ ไปยังทุกจังหวัดที่กำลังประสบอุทกภัยในขณะนี้ ได้เร่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยเฉพาะการป้องกันการสูญเสียชีวิตเป็นอันดับแรก รวมถึงดูแลความเป็นอยู่ เช่น เรื่องอาหาร การดูแลผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มเปราะบาง และการอพยพประชาชน หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย น้ำท่วมขังสูง

 

วันที่ 15 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00 น.

นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายสำนวน ทองศรี นายอำเภอท่าชนะ นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น หน่วยกู้ภัย ทหาร และเจ้าหน้าที่ เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย น้ำท่วมขังสูง ในพื้นที่ตำบลวัง ตำบลประสงค์ อำเภอท่าชนะ
พื้นที่ประสบภัยดังกล่าว เป็นพื้นที่รับน้ำ ท้ายน้ำก่อนระบายน้ำลงทะเล ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวต้องประสบภัยน้ำท่วมขังระดับสูง ซึ่งการลงพื้นที่นั้นได้นำถุงยังชีพ อาหารแห้ง และน้ำดื่มแจกจ่ายให้แก่ครัวเรือนต่าง ๆ และให้คำแนะนำข้อปฏิบัติในสถานการณ์อุทกภัยให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่ตรวจประตูระบายน้ำชลประทาน และเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งไว้ที่ตำท่าชนะ อำเภอท่าชนะ

มช.เกษตรและสหกรณ์ ไถ่ชีวิตโค โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ พร้อมมอบหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน ช่วยเกษตรกรประสบภัยน้ำท่วม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 
วันที่ 15 ธันวาคม 2567
นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานในพิธีไถ่ชีวิตโค โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ภายใต้ นโยบายการขับเคลื่อนสุราษฎร์ธานีโมเดล จำนวน 52 ตัว พร้อมกันนี้ ได้มอบเมล็ดพันธุ์หญ้า และหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน จำนวน 10 ตัน เพื่อนำไปช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ที่ประสบปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ ณ ศาลาประชาคม ที่ว่าการอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ เป็นโครงการตามพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2522 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีโค-กระบือไว้ใช้แรงงาน และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร อีกทั้ง โครงการธนาคารโค-กระบือฯ ยังเป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และสนับสนุนให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารโครงการ โดยวิธีการรวมกลุ่ม และใช้ประโยชน์จากโค-กระบือให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การใช้ประโยชน์จากมูลโคเป็นแก๊สชีวภาพ หรือใช้เป็นปุ๋ยคอกทดแทน ปุ๋ยเคมีบางส่วนเพื่อลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งเป็นการสนับสนุน การใช้แรงงานจากสัตว์เพื่อการเกษตร ตลอดจนเสริมสร้างการพื้นฟูและอนุรักษ์ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรฯ 429 ราย ในพื้นที่ 15 อำเภอ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้มอบหญ้าแห้งพระราชทาน เพื่อให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานี นำไปแจกจ่ายให้กับเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย พร้อมกับกล่าวถึงสถานการณ์ภัยพิบัติภาคใต้ด้วยว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่โ ดยนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาและเยียวยาเบื้องต้นให้รวดเร็ว สำหรับสถานการณ์อุทกภัย จ.สุราษฎร์ธานี นั้น ปัจจุบันยังมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ จึงต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในช่วงวันที่ 14 -16 ธันวาคม 2567 (ข้อมูลวันที่ 14 ธันวาคม 2567) ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยโดยเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น เร่งสำรวจความเสียหาย เน้นการทำงานเชิงรุก ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดการสัมมนาการสร้างพลังขับเคลื่อนการพัฒนาภาคการเกษตรในระดับพื้นที่ นำร่องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของกระทรวง พร้อมระดมความคิดเห็น เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรในพื้นที่

 
วันที่ 14 ธันวาคม 2567 นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เปิดการสัมมนาการสร้างพลังขับเคลื่อนการพัฒนาภาคการเกษตรในระดับพื้นที่ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดนำร่อง โดยมี นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรี ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งจากส่วนกลางและในพื้นที่ รวม 42 หน่วยงาน กว่า 1,000 คน ร่วมกิจกรรม
ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้กำหนดจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดนำร่อง เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีผลผลิตทางด้านการเกษตรที่มีความหลากหลาย ทั้งด้านพืช สัตว์ และประมง ทำให้มีภารกิจที่หลากหลาย จึงมีหลายหน่วยงาน ทั้งส่วนกลางที่มีที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคและส่วนภูมิภาค อยู่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงต้องมีการสร้างและเพิ่มแรงบันดาลใจในการปฏิบัติงานให้แก่บุคลากรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาภาค
การเกษตร ให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดให้นโยบายด้านการเกษตรเป็นนโยบายสำคัญ และ เร่งด่วน ที่จะต้องขับเคลื่อน โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยน ยกระดับ การเกษตรแบบดั้งเดิม เป็นเกษตรสมัยใหม่ ภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ซึ่งต้องอาศัยบุคลากรในระดับพื้นที่ ที่เป็นกำลังสำคัญของกระทรวงฯ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคการเกษตร ไปสู่ภาคประชาชน ตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิต นำไปสู่การแปรรูป เพิ่มมูลค่าให้ผลผลิต และปลายน้ำ คือ การตอบสนองความต้องการของตลาด เพื่อให้เกษตรกร มีรายได้ และ ก้าวข้ามเส้นความยากจน นำไปสู่คุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดี ตามเป้าหมายของรัฐบาล
Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!