ผู้ว่าฯ มาแล้ว นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีพร้อมด้วย นางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันแรก ย้ำตั้งใจทำงานเต็มที่ เพื่อรับใช้บ้านเกิดตามที่ใฝ่ฝันเอาไว้

วันที่ 4 ตุลาคม 2566

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีพร้อมด้วย นางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางจากจังหวัดสงขลาถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยจุดแรกได้เข้าสักการะ หลวงพ่อพัววัดบางเดือน ตำบลบางเดือนอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมกับพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งบ้านบางเดือนเป็นบ้านเกิดของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งในวัยเด็ก ได้เติบโตและเที่ยวเล่นที่วัดบางเดือน โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้กล่าวพบปะกับพี่น้องประชาชนและร่วมรับประทานอาหารกับผู้นำท้องที่ท้องถิ่นเพื่อสอบถามชีวิตความเป็นอยู่และปัญหาอุปสรรคในพื้นที่ จากนั้น ได้เดินทางไปสักการะ ศาลพญาท่าข้าม ในเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม อำเภอพุนพิน และได้เข้า สักการะพระราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ เพื่อนน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงพระราชทานนาม จังหวัดสุราษฎร์ธานีและแม่น้ำตาปี และเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะเดินทางไป สักการะ ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เดินทางมายังศูนย์ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และไหว้ศาลพระภูมิประจำ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้ไหว้พระที่ห้องพระประจำศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี และไหว้พระภายในห้องทำงานศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสการปฏิบัติหน้าที่ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีวันแรก

โดยระหว่างการเดินทางไปยังจุดต่างๆผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้พบปะกับประชาชนพร้อมทั้งกล่าวว่า ตั้งแต่บรรจุรับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอที่อำเภอท่าชนะ ก็มีความใฝ่ฝันที่จะมาเป็นนายอำเภอพุนพิน สักครั้งเพื่อรับใช้บ้านเกิด แต่ด้วยภาระหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ให้ทำงานแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ทำให้กว่า 30 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยได้มาปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนกระทั่งครั้งนี้ได้รับการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงถือเป็นโอกาสสำคัญ ที่จะได้กลับมารับใช้บ้านเกิด และให้คำมั่น กับ ชาวสุราษฎร์ธานี ว่า จะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดสุราษฎร์ธานีอย่างสุดความสามารถ