ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานีห่วงใยทุกปัญหา ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาลุ่มน้ำตาปี-พุมดวง
วันที่ 3 เมษายน 2567 เวลา 10.00 น.
นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบางงอน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตรกรรม จากการดำเนินโครงการพัฒนาลุ่มน้ำตาปี-พุมดวง ซึ่งประสบปัญหาเกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพลำน้ำ ปัญหาผลกระทบจากการก่อสร้างคลองส่งน้ำ MC1 และปัญหาระยะเวลาก่อสร้างโครงการตามมติ ครม. สิ้นสุดในปี 2564
ซึ่งจากรายงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพลำน้ำ ทำให้เกิดปัญหาการสูบน้ำในช่วงฤดูแล้ง ระดับน้ำในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ระดับน้ำในแม่น้ำพุมดวงไม่ถึงระดับ +1.50 เมตร (รทก.) ซึ่งเป็นระดับน้ำต่ำสุด ที่สถานีสูบน้ำสามารถดำเนินการสูบได้ สาเหตุเนื่องจากระยะทางจากเขื่อนรัชชประภาถึงสถานีสูบน้ํา ระยะทางประมาณ 38 กิโลเมตร ระหว่างทางมีการใช้ประโยชน์ที่ดินเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยมีการสูบใช้น้ําเพื่อการเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น ทําให้ระดับน้ําในแม่น้ําพุมดวงมีระดับต่ำลงจากที่ทําการศึกษาไว้
ส่วนปัญหาผลกระทบจากการก่อสร้างคลองส่งน้ำ MC1 เนื่องจากมีราษฎรได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างคลองส่งน้ํา MC1 และคลองสายซอย ประสบปัญหาการระบายน้ําในพื้นที่โครงการ การสัญจรข้ามคันคลองส่งน้ําMC1 และทางเชื่อมสวนจํานวนหลายแห่ง ขอให้สํานักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่แก้ปัญหาความเดือดร้อน โดยต้องการให้เพิ่มอาคารประกอบตามแนวคลองส่งน้ํา MC1 ท่อลอดคลองส่งน้ำ จำนวน 33 แห่ง ทางเชื่อมสวนปาล์ม 250 แห่ง สะพานรถยนต์ 9 แห่ง Farm Bridge 17 แห่ง และท่อลอดถนน จำนวน 3 แห่ง
ขณะที่ปัญหาระยะเวลาก่อสร้างโครงการตามมติ ครม. สิ้นสุดในปี 2564 นั้น เนื่องจากตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติขยายระยะเวลาโครงการเป็น ระยะเวลา 13 ปี (พ.ศ.2552-2564) ภายใต้กรอบวงเงินโครงการเดิม แต่การดําเนินงานของโครงการยังไม่แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ ราษฎรส่วนใหญ่ไม่ต้องการสูญเสียพื้นที่ทำกินเพิ่มเติมในการก่อสร้างคลองระบายน้ําระยะที่2ของโซน MC1 เนื่องจากได้สูญเสียที่ดินจากการก่อสร้างคลองส่งนํ้าไปแล้ว ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการฯ ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหา กรมชลประทานได้ดําเนินงานโดยการปรับเปลี่ยนเป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการระบบส่งน้ํา MC2 ดำเนินการจัดซื้อที่ดินในเบื้องต้นแล้ว 94% และโครงการระบายน้ำ MC1 ปัจจุบันยังไม่มีการจัดหาที่ดินเพื่อการชลประทาน ซึ่งเมื่อดําเนินการแล้วเสร็จจะเกิดประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่ได้กําหนดไว้ในเบื้องต้น
สำหรับโครงการพัฒนาลุ่มน้ำตาปี-พุมดวง สืบเนื่องจากพื้นที่บริเวณลุ่มน้ําตาปี-พุมดวง เกิดการขาดแคลนน้ําในช่วงฤดูแล้งและเกิดอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ทําให้การประกอบอาชีพทางการเกษตร มีผลผลิตที่ไม่แน่นอน และค่อนข้างต่ำ เนื่องจากระบบส่งนํ้าเดิมที่มีอยู่เกิดความชํารุดเสียหาย ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ กรมชลประทานจึงเห็นควรก่อสร้างโครงการพัฒนาลุ่มน้ําตาปี-พุมดวง เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สามารถนำน้ำไปใช้ประโยชน์ทางด้านเกษตรกรรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคณะรัฐมนตรีอนุมัติเปิดโครงการ เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2552 ระยะเวลา 8 ปี (พ.ศ.2552–2559) วงเงินงบประมาณ 3,330 ล้านบาท ต่อมาได้อนุมัติขยายระยะเวลาโครงการ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560 รวมระยะเวลาโครงการ 13 ปี (พ.ศ.2552-2564) ซึ่งผลงานสะสมทั้งโครงการอยู่ที่ 75.533 %
ทั้งนี้ผลประโยชน์ที่ได้รับเมื่อโครงการแล้วเสร็จ พื้นที่ชลประทาน 73,980 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ 12 ตำบล 48 หมู่บ้าน 11,750 ครัวเรือนราษฎร 46,313 คน เป็นแหล่งน้ำสำหรับการอุปโภค บริโภคของราษฎร และสนับสนุนการเพาะเลี้ยงชายฝั่ง โดยการช่วยส่งน้ำจืดผสมกับน้ำเค็ม รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านปริมาณและคุณภาพน้ำอย่างเต็มที่