. จังหวัดสุราษฎร์ธานีขับเคลื่อนโครงการ "คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
วันที่ 1 ตุลาคม 2567
นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการ "คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 1/2567 ห้องประชุมนางยวน ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อรับทราบแนวทางการดำเนินโครงการของกระทรวงมหาดไทย และในส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งทุกจังหวัดทั่วประเทศจะต้องดำเนินการคัดเลือกแหล่งน้ำเข้าร่วมโครงการ โดยให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ใช้กรอบแนวทางการทำงานของคณะกรรมการจัดทำผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo-social Map) โดยให้ประสานการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายของจังหวัด โดยใช้แบบอย่างแนวทางการพัฒนาคลองเปรมประชากร/คลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ บึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี และสระบ่อดินขาว จังหวัดนครสวรรค์ ให้จัดทำแผนการดำเนินงานในการขับเคลื่อนโครงการ โดยให้กำหนดเป็นระยะๆ เพื่อทันกับช่วงเวลาเฉลิมพระเกียรติฯ และให้ดำเนินการโดยต่อเนื่องจนกว่าโครงการจะแล้วเสร็จโดยสมบูรณ์และมีความยั่งยืน
ซึ่งในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ได้พิจารณาคัดเลือก "บางลาทู" ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสาธารณะที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำพุมดวง หมู่ที่ 5 ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน ดำเนินโครงการ "คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข" เฉลิมพระเกียรติฯ และได้รายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบแล้ว พร้อมกับประสานความร่วมมือกับส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อวางแผนการดำเนินงาน และสนับสนุนงบประมาณในการขับเคลื่อนโครงการให้แล้วเสร็จและเกิดความยั่งยืน และเมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จ จะได้ส่งเสริมการตลาดทั้งการบูรณาการจัดกิจกรรมในงานสำคัญของจังหวัด การจัดกิจกิจกรรมเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวชุมชน รวมทั้งน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโครงการ "บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง" และโครงการ "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" มาประยุกต์ใช้ในการบริหารพื้นที่โครงการให้เกิดความยั่งยืนต่อไป.//สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
