จังหวัดสุราษฎร์ธานีจัดพิธีถวายอาลัยและปฏิญาณตน รวมพลังแห่งความสามัคคี บริจาคโลหิต 1,110 คน ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสครบรอบ 110 ปี การพระราชทานนามจังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันที่ 23 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. ณ อาคารศูนย์กลางการประชุมสัมมนาภาคใต้ตอนบน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้จัดพิธีถวายอาลัยและปฏิญาณตนรวมพลังแห่งความสามัคคี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมจัดกิจกรรม “สุราษฎร์ธานีรวมเลือดเนื้อเพื่อชาติไทย” รับบริจาคโลหิตเป้าหมายจำนวน 1,110 คน เนื่องในโอกาสครบรอบ 110 ปี การพระราชทานนามจังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดยมี นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิทศักดิ์ จำเริญนุสิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายกล้าณรงค์ ยุติธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และพสกนิกรชาวสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้กล่าวน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายความอาลัย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดพระชนม์ชีพพระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยพระวิริยะอุตสาหะ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย ทั้งด้านการธำรงรักษาและสืบสานศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า อาทิ การแสดงโขนพระราชทาน การส่งเสริมอาชีพผ่านศูนย์ศิลปาชีพทั่วประเทศ ตลอดจนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ซึ่งล้วนก่อให้เกิดคุณูปการแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างเป็นที่ประจักษ์ และจะสถิตอยู่ในดวงใจของปวงชนชาวไทยตราบนานเท่านาน จากนั้น ผู้เข้าร่วมพิธีได้พร้อมใจกันถวายสัตยปฏิญาณเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ แสดงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการรวมพลังแห่งความสามัคคี ดำรงตนเป็นพลเมืองดีของชาติ มีความซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อหน้าที่ ยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรม พร้อมอุทิศตนทำความดีเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติสืบไป

สำหรับกิจกรรมรับบริจาคโลหิตวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีดำริให้จัดขึ้นในห้วงระหว่างวันที่ 19–30 ธันวาคม 2568 และนับรวมยอดการรับบริจาคโลหิตจากทุกอำเภอและหน่วยงานภาครัฐทั่วจังหวัด เพื่อนำไปช่วยเหลือโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา อันเป็นการแสดงออกถึงพลังศรัทธา ความจงรักภักดี และน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของชาวสุราษฎร์ธานีในวาระสำคัญของจังหวัด