สุราษฎร์ธานี – ผู้ว่าฯ ติดตามการระบายผู้โดยสารเฟอร์รี่ตกค้าง หลังงดเดินเรือ 2 วันจากคลื่นลมแรง
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ติดตามการเร่งระบายผู้โดยสารตกค้างที่ท่าเรือเฟอร์รี่ ในอำเภอดอนสัก หลังงดเดินเรือ 2 วัน จากภาวะคลื่นลมแรง และติดตามสถานการณ์อุทกภัย ในอำเภอกาญจนดิษฐ์ กำชับทุกหน่วย เฝ้าระวังฝนตกหนัก คลื่นลมแรงต่อเนื่อง และเตรียมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอด 24 ชั่วโมง
วันที่ 20 ธันวาคม 2565 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ นายอำเภอดอนสัก ลงพื้นที่ท่าเรือซีทรานส์เฟอร์รี่ ตรวจสอบสภาพคลื่นลม ซึ่งช่วงนี้ ยังคงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม หลังจากเมื่อวันที่ 18 – 19 ธันวาคมที่ผ่านมา คลื่นลมในอ่าวไทย มีกำลังแรง คลื่นสูง 2 – 4 เมตร จึงต้องออกประกาศงดเดินเรือทุกชนิด เพื่อความปลอดภัย แต่ก็ได้ส่งผลให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทราจะเดินทางไปยังพื้นที่เกาะจำนวนหนึ่งตกค้าง
ล่าสุด จากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้สภาพคลื่นลมอ่อนกำลังลงแล้ว ความสูงของคลื่นประมาณ 1-2 เมตร แต่จะมีลมแรงในช่วงฝนฟ้าคะนอง ทำให้การเดินเรือในเฟอร์รี่ และ เรือคาตามาราน เส้นทางดอนสัก เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า สามารถเดินทางได้ตามปกติ รวมถึง เรือนำเที่ยวไปยังหมู่เกาะอ่างทอง และเกาะต่างๆ สามารถให้บริการได้ตามปกติเช่นกัน
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนายพูลศักดิ์ โสภณปทุมรักษ์ นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ ร่วมลงพื้นที่ วัดเขาถ้ำธรรมอุทัย ตำบลท่าอุแท อำเภอกาญจนดิษฐ์ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ในพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังในระลอกที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนประชาชนโดยรอบวัดถูกน้ำท่วม ขณะที่พระสงฆ์ ก็ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด สถานการณ์ในพื้นที่เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎรธานี กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมถวายถุงยังชีพแก่พระสงฆ์ และชาวบ้าน เพื่อช่วยเหลือและเป็นขวัญกำลังใจสำหรับผู้ประสบอุทกภัย และสั่งการให้อำเภอ ท้องถิ่นในพื้นที่ เฝ้าระวัง ติดตามการพยากรณ์อากาศ การแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า สามารถลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เพราะปีนี้ปริมาณน้ำฝนมากกว่าค่าปกติ และกำชับให้ทุกหน่วยงาน ช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้ทั่วถึง และรวดเร็ว ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย
ข่าว/ภาพ – ส.ปชส.สุราษฎร์ธานี