ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่อำเภอพระแสง ติดตามความพร้อมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เสี่ยงภัย เนื่องจากเป็นพื้นที่รองรับน้ำที่แรก ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อราษฎรเมื่อเกิดเหตุอุกภัย พร้อมเน้นย้ำประชาชนติดตามประกาศแจ้งเตือน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินในช่วง1-2เดือนที่จะถึง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำอย่างทันท่วงที
วันที่ 4 คุบาคม 2565 เวลา13.30 น. นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ ติดตามความพร้อมในการรับมืออุทกภัย พื้นที่ อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นพื้นที่รับน้ำสำคัญทั้งจากจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดกระบี่ ที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าว ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะพื้นที่ริมคลองอิปัน ซึ่งพาดผ่านพื้นที่ 6 ตำบล ก่อนจะไหลออกไปลงแม่น้ำตาปีที่ตำบลสินปุน โดยมี นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุพัชรพงศ์ วรประดิษฐ์ นายอำเภอพระแสง ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย
จุดแรกที่ นายวิชวุทย์ จินโต ได้ลงพื้นที่ คือ สวนสาธารณะสระแก้ว หมู่ที่ 4 ตำบลบางสวรรค์ อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเป็นพื้นที่รองรับน้ำมาจากหมู่ที่ 6 เขตรอยต่อกับจังหวัดกระบี่ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวและมีการสร้างแนวเขื่อนที่กันน้ำคลองอิปัน ก่อนที่จะไหลเข้าสู่ตัวตลาดบางสวรรค์
จากนั้นผู้ว่าฯได้เดินทาง ไปติดตามและตรวจสอบ ระบบเตือนภัยของกรมทรัพยากรน้ำ ที่ติดตั้งอยู่บนสะพานข้ามคลองอิปัน ในพื้นที่หมู่ 2 บ้านใต้โตน ครอบคลุมบ้านเรือนประชากรระยะทางประมาณ 150 ตารางกิโลเมตร โดยตลอดแนวมีการติดตั้งสถานีเตือนภัยไว้ 4 จุด โดยแต่ละจุดจะสามารถวัดปริมาณน้ำฝน ระดับน้ำ และส่งข้อมูลไปยังระบบเตือนภัย ที่มีสัญญาณไฟและเสียงสัญญาณเตือนหากระดับน้ำขึ้นเข้าสู่สภาวะวิกฤต ซึ่งเช่นเดียวกับพื้นที่ บ้านย่านตะเคียน หมู่ที่ 5 ตำบลไทรโสภา ที่มีการติดตั้งระบบเตือนภัยของกรมทรัพยากรน้ำ เนื่องจากจุดดังกล่าว เป็นเส้นทางน้ำอีกเส้นทางที่ไหลมาจากคลองโตรม อำเภอชัยบุรี เพื่อไหลรวมลงสู่คลองอิปัน ที่เป็นแหล่งน้ำสร้างความเสียหายให้แก่ราษฎรในพื้นที่ดังกล่าว
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการคาดการณ์ด้านสภาพอากาศ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมนี้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่รับน้ำและพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากต้องมีการเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือกับอุทกภัยตั้งแต่ระบบแจ้งเตือนซึ่งจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้พบว่าระบบแจ้งเตือนระดับน้ำอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และยังสามารถ เชื่อมโยงข้อมูลกับพื้นที่ต้นน้ำ ซึ่งหากมีฝนตกในระดับมากกว่า 100 มิลลิเมตรก็จะสามารถแจ้งเตือนได้ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมง และหากระดับน้ำเข้าขั้นวิกฤตหรือมีน้ำป่าไหลหลาก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องมือ ยานพาหนะ เพื่ออพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ไปยัง ศูนย์พักพิงฯ หรือ สถานที่ปลอดภัยได้ภายใน 5-7 ชั่วโมง ก่อนน้ำมา