จากกรณีที่มีเรือหางยาวผิดกฎหมาย นำนักท่องเที่ยวฝืนคำสั่งสำนักงานเจ้าท่าสาขาเกาะพะงัน นำนักท่องเที่ยวจำนวน 10 คน และคนควบคุมเรืออีก 3 คน ออกเดินทางจากหาดริ้น จะไปหาดยวน ในพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในช่วงกลางคืนและมีคลื่นลมแรง จนเกิดเหตุคลื่นซัด จนเรืออับปาง หลังออกจากฝั่งไปได้เพียง 50 เมตร เมื่อเวลาประมาณ 03.20 น. ของวันที่ 29 ธันวาคม 2567 โดยเหตุดังกล่าว สามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและลูกเรือได้ 12 คน มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ สูญหาย 1 คน ทราบชื่อคือ นายยุจิน และจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบผู้สูญหาย
ด้านนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เน้นย้ำ กับพันตำรวจเอก นรเศรษฐ์ อินทรจันทร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจน้ำ 2 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ ให้เร่งรัดสอบสวนและดำเนินคดีของเคร่งครัด กับทั้งเจ้าของเรือ และผู้ควบคุมเรือลำเกิดเหตุ ที่มีการฝ่าฝืนประกาศเตือนของเจ้าพนักงาน ในการออกเรือขนาดเล็กในช่วงที่มีคลื่นลมแรง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า คนขับเรือ คือ นายพัฒนพงศ์ แซ่เตียว ได้ตรวจพบสารเสพติด (ยาบ้า) ทั้งยังนำเรือลำเกิดเหตุ ซึ่งถูกยกเลิกทะเบียนเรือแล้ว ออกมาใช้งานซึ่งผิดตามกฎหมายของกรมเจ้าท่า ทำให้เข้าข่ายกระทำการโดยประมาท แต่คดียังอยู่ในกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ และยังไม่พบผู้สูญหาย จึงยังไม่มีข้อสรุปจากพนักงานสอบสวนว่าจะดำเนินคดีในข้อหาใดบ้าง
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในส่วนของคดีก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องเร่งดำเนินการ รวมถึง การระดมค้นหาผู้สูญหาย อย่างเร็วที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญมาก คือ การบังคับใช้มาตรการความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งเรื่องของการเข้มงวดการสวมเสื้อชูชีพ การฝ่าฝืนประกาศคำสั่งคำเตือน หรือ การลักลอบนำเรือผิดกฎหมายมาใช้งาน รวมถึงการลักลอบออกเรือ ซึ่งขณะนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ได้ดำเนินการอย่างเข้มงวด ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย เพราะจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ยิ่งเมื่อเกิดเหตุกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ยิ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วย