วันที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 15.30 น.
นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์สาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ ห้องประชุมตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ซึ่งจากสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 17-20 พฤศจิกายน ได้เกิดสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งผลให้ระดับน้ำในลำคลองเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่จำนวน 14 อำเภอ รวม 72 ตำบล 538 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 36,619 ครัวเรือน มีผู้จมน้ำเสียชีวิต จำนวน 1 ราย ล่าสุดสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 13 อำเภอ ยังคงมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่บริเวณที่ลุ่มต่ำแนวตลิ่ง และน้ำทะเลหนุน 1 อำเภอ (อำเภอพุนพิน) โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานีและภาคส่วนต่างๆ ได้มีการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในช่วงเกิดอุทกภัยอย่างเต็มกำลัง พร้อมกับมีการเตรียมความพร้อมศูนย์พักพิงรองรับการอพยพประชาชนในทุกตำบล
ทางด้านการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในพื้นที่ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 21 ตุลาคม 2568 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 มีผู้ลงทะเบียนแล้วจำนวน 11,744 ครัวเรือน โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้จัดประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 มีมติเห็นชอบให้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยฯ จำนวน 1,999 ครัวเรือน โอนสำเร็จเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 จำนวน 1,945 ครัวเรือน เป็นเงินทั้งสิ้น 17,505,000 บาท ตีกลับ จำนวน 54 ครัวเรือน และประชุมเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2568 มีมติเห็นชอบให้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยฯ จำนวน 6,131 ครัวเรือน ปัจจุบันยืนยันข้อมูลส่งกรม ปภ. แล้ว รอการโอนเงินให้กับประชาชน และกำหนดประชุมเพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือรอบต่อไปในวันที่ 15 ธันวาคม 2568
อย่างไรก็ตามจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังมีการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย ระหว่างวันที่ 11 – 16 ธันวาคม 2568 โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ให้อำเภอที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบและอยู่ในพื้นที่เสี่ยงได้ประสาน อปท. ผู้นำท้องที่เตรียมความพร้อมทั้งทรัพยากรและบุคลากรพร้อมปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ให้ชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำที่มีอยู่ออกเพื่อรองรับน้ำที่จะมาเติมกรณีมีฝนตกมาในพื้นที่และพื้นที่ต้นน้ำ รวมทั้งเตรียมความพร้อมศูนย์พักพิงทั้งวัสดุ อุปกรณ์ และบุคลากร เพื่อรองรับการอพยพประชาชนในทุกตำบล.