จ.สุราษฎร์ธานีรับฟังแนวทาง มาตรการแก้ไขปัญหา และข้อสั่งการจากคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศ ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566

วันที่ 4 มกราคม 2566  ณ ห้องประชุมตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมรับฟังแนวทาง มาตรการแก้ไขปัญหา และข้อสั่งการ จากคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศ ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและร่วมประชุม ทางระบบประชุมทางไกล VCT โดยมีนายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศ ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 เพื่อพิจารณาแนวทาง มาตรการแก้ไขปัญหา และข้อสั่งการ ของข้อมูลสถิติอุบัติเหตุแต่ละวันจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผลการวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทาง กรณีเสียชีวิต การบังคับใช้ถนน การจัดตั้งจุดชะลอความเร็ว และข้อมูลทางอากาศและทางน้ำ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ผู้ขับขี่อายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับ เป็นต้น
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดสุราษฎร์ธานี สรุปรายงานการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 มีข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 มีอุบัติเหตุทางถนนในจังหวัดเกิดขึ้น ในวันที่ 3 มกราคม 2566 โดยอุบัติเหตุทางถนนในจังหวัดเกิดขึ้น รวม 5 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 5 คน เพศชาย 4 คนและเพศหญิง 1 คน อำเภอที่เกิดอุบัติเหตุ ไชยา จำนวน 1 ครั้ง จำนวนผู้บาดเจ็บ 1 คน คีรีรัฐนิคม จำนวน 1 ครั้ง จำนวนผู้บาดเจ็บ 1 คน อำเภอเมือง จำนวน 1 ครั้ง จำนวนผู้บาดเจ็บ 1 คน ดอนสัก จำนวน 1 ครั้ง จำนวนผู้บาดเจ็บ 1 คน และเคียนซา จำนวน 1 ครั้ง จำนวนผู้บาดเจ็บ 1 คน
สำหรับจำนวนผู้ถูกดำเนินคดีตาม 10 มาตรการ "รสขม" เทียบสะสม 6 วัน วันที่ 29 ธันวาคม 2565 - วันที่ 3 มกราคม 2566 รวม10 มาตรการ 2,942 ไม่สวมหมวกนิรภัยจำนวน 861 ราย มอเตอร์ไซด์ไม่ปลอดภัยจำนวน 73 ราย เมาสุราจำนวน 81 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจำนวน 329 ราย ไม่มีใบขับขี่จำนวน 942 ราย ความเร็วเกินกำหนดจำนวน 528 ราย ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรจำนวน 35 ราย ขับรถย้อนศรจำนวน 44 ราย แซงในที่คับขันจำนวน 24 ราย และใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถจำนวน 25 ราย.