วันที่ 16 เมษายน 2567 เวลา 09.30 น.
นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน และผู้เกี่ยวข้อง ประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ณ ห้องตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับหน่วยงานส่วนกลางผ่านระบบ VDO Conference ซึ่งมีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน เพื่อติดตามสถานการณ์และผลการดำเนินงานของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและลดอุบัติเหตุฯ ได้แก่ ข้อมูลการเกิดอุบติเหตุประจำวัน การบังคับใช้กฎหมาย การตั้งจุดชะลอความเร็ว การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ รวมทั้งร่วมพิจารณาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชน ห้วงวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567
ในการนี้ที่ประชุมได้รายงานข้อมูลสถิติอุบัติเหตุประจำวันที่ 15 เมษายน 2567 พบว่า อุบัติเหตุทางถนนในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเกิดขึ้น 9 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 12 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต พฤติกรรมเสี่ยงและสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถเร็วเกินกำหนด ตัดหน้ากระชั้นชิด ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ รถกระบะ ขณะที่ยอดสะสมในห้วงวันที่ 11 – 15 เมษายน 2567 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นรวมทั้งสิ้น 36 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 42 คน และเสียชีวิต 4 คน โดยได้ดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดตาม 10 มาตรการ “รสขม” ไปแล้วจำนวน 3,395 ราย ส่วนใหญ่เป็นความผิด ไม่มีใบขับขี่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนการเมาแล้วขับ พบว่าเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ 5 วัน มีผู้ถูกจับกุม 169 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีมากกว่า 2 เท่า
โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เน้นย้ำถึงความห่วงใยประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนน รวมไปถึงนักท่องเที่ยว ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางกลับของประชาชน ที่จะเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่วันนี้ และพรุ่งนี้ จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้บูรณาการจัดตั้งจุดตรวจ/จุดบริการประชาชน ทั้งจุดตรวจหลัก จุดชะลอความเร็ว จุดบริการ และด่านชุมชน/หมู่บ้าน ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ทั้ง 19 อำเภอ พร้อมรณรงค์ประชาสัมพันธ์เน้นย้ำให้ด่านชุมชน ได้สกัดกั้นกลุ่มที่มพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ให้ออกมาใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะกลุ่มที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ เด็ก หลังจากมีอุบัติเหตุกับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีหลายกรณี รวมถึงบางจังหวัด เกิดการสูญเสียจึงต้องใช้กลไกของด่านชุมชน/ครอบครัว ช่วยกันตักเตือน เฝ้าระวังให้มากขึ้น