Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

จังหวัดสุราษฎร์ธานีมอบสมุดประจำตัวผู้รับได้การคัดเลือกให้ทำกินกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ในพื้นที่ป่าสงววนแห่งชาติ "ป่าเขาพนมและป่าพลูเถื่อน" ภายได้โครงการคลินิกปันสุขเพื่อสังคม จำนวน 101 ราย 113 แปลง เนื้อที่ 849 ไร่เศษ

 

วันที่ 18 กรกฎาคม 2567

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีมอบสมุดประจำตัวผู้รับได้การคัดเลือกให้ทำกินกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล(คทช.) ในพื้นที่ป่าสงววนแห่งชาติ "ป่าเขาพนมและป่าพลูเถื่อน" ภายได้โครงการคลินิกปันสุขเพื่อสังคม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุราษฎร์ธานี อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์รานี

ทั้งนี้สืบเนื่องจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อนุมัติแผนปฏิบัติงานโครงการคลินิกปันสุขเพื่อสังคม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของสำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งรายละเอียดโครงการกำหนดให้มีการจัดกิจกรรมสร้างความรับรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน และมอบสมุดประจำตัวผู้ใด้รับการคัดเลือกให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินตามนโยบายรัฐบาล และ คทช. ในพื้นพื้นที่ป้าสงวนแห่งชาติ "ป่าเขาพนมและป่าพลูเถื่อน" ซึ่งคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้รับพื้นที่เป้าหมายพร้อมบัญชีรายชื่อผู้ได้รับการจัดที่ดิน และคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ดำเนินการตามกระบวนการจัดที่ดินและจัดส่งบัญชีรายชื่อผู้ใด้รับการจัดที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งผ่านความเห็นชอบรับรองรายชื่อจาก คทช.จังหวัดสุราษฎร์ธานี และกรมที่ดิน ได้ดำเนินการจัดทำสมุดประจำตัวผู้ทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว ในลักษณะแปลงรวม จำนวน 101 ราย 113 แปลง เนื้อที่ 849 ไร่เศษ

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ เป็นการให้ความรู้ความเข้าใจและการมอบสมุดประจำตัวผู้ใด้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชุมชนตามโยบายรัฐบาล ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ "ป่าเขาพนมและป่าพลูเถื่อน" ให้แก่ประชาชนในท้องที่อำเภอพนม และพื้นที่ใกล้เคียง จำนวนทั้งสิ้น 101ราย 113แปลง และผู้เข้าร่วมโครงการคลินิกปันสุขเพื่อสังคมของสำนักงางานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคประชาชน เจ้าหน้าที่ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และระดับท้องถิ่น.

สำนักงาน กสทช. เขต 44 เปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการฝึกข้อมการใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยใช้คลื่นความถี่ในการติดต่อประสานงาน ระหว่างหน่วยงานของรัฐเอกชน และประชาชน กรณีเกิดภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน

 

วันพฤหัสบดี ที่ 18 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องบรรจงแกรนด์บอลรูม 10 โรงแรมบรรจงบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการฝึกข้อมการใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยใช้คลื่นความถี่ในการติดต่อประสานงาน ระหว่างหน่วยงานของรัฐเอกชน และประชาชน กรณีเกิดภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน โดยมีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานรัฐสาหกิจ และหน่วยงานภาคเอกชน จำนวน 25 หน่วยงาน จำนวนทั้งสิ้นกว่า 100 คน

โดยนายชาญณรงค์ แพรกปาน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เขต 44 กล่าวว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคใต้เป็นพื้นที่ราบ สลับกับภูเขาสูง และติดชายฝั่งทะเล เกิดความรุนแรงทวีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เหตุนี้ สำนักงาน กสทช. เขต 44 จึงได้จัด "โครงการอบรมเชิงปฏิฝึกซ้อมการใช้เครื่องวิทยุคมนาคม โดยใช้คลื่นความถี่ในการติดต่อประสานงานระหว่างหน่วยงานของรัฐและประชาชน กรณีเกิดภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน" เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการติดต่อสื่อสาร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรคมนาคม ให้มีการเตรียมความพร้อม แก้ไขข้อขัดข้องการใช้โทรศัพท์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงระบบโทรคมนาคมอื่น ๆ ให้สามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้ เป็นการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนภัยให้กับประชาชน และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบภัย ตลอดจนให้มีการประกาศประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร รับแจ้งเหตุ และรายงานสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมสามารถดำเนินการตามหน้าที่และความรับผิดชอบ ที่จะต้องดำเนินการในกรณีเกิดภัยพิบัติและเหตุฉุกเฉินได้อย่างถูกต้อง ในต้องมีการซักซ้อมกระบวนการขั้นตอนในการประสานงานระหว่างหน่วยงาน ด้านการบรรเทาสาธารณภัย สาธารณสุข และด้านการสื่อสาร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนของข่ายโทรคมนาคม ข่ายวิทยุสื่อสารภาครัฐ ข่ายวิทยุสมัครเล่น และข่ายสื่อสารภาคประชาชน ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขอุปสรรคด้านการสื่อสารให้สามารถติดต่อกันได้เมื่อเกิดภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน และมีกระบวนการในการประกาศประชาสัมพันธ์ รับเตือนภัย และรายงานสถานการณ์ที่เกี่ยวกับภัยพิบัติและเหตุเฉินดังกล่าวให้ประชาชนทราบต่อไป.

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีเปิดโครงการยกระดับธรรมาภิบาลภาคประชาสังคมในระดับการปกครองท้องที่เพื่อนำไปใช้ในการถ่ายทอดและเผยแพร่สู่ประชาชน


วันที่ 18 กรกฎาคม 2567 เวลา 11.00 น. ที่ โรงแรมบรรจงบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการยกระดับธรรมาภิบาลภาคประชาสังคมในระดับการปกครองท้องที่ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รุ่นที่ 5 โดยมีนางสาวศรารัตน์ ภูฆัง ผู้แทนสำนักบริหารการปกครองท้องท้องที่กรมการปกครอง ปลัดอำเภอ คณะกรรมการหมู่บ้านจาก 14 จังหวัดภาคใต้กว่า 300 คน ร่วมกิจกรรม
โดยกรมการปกครอง ในฐานะหน่วยงานหลักที่ดูแลกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและ คณะกรรมการหมู่บ้านทั่วประเทศ พยายามพัฒนาและขับเคลื่อน การดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน ร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้คณะกรรมการหมู่บ้านเป็นกำลังและกลไกสำคัญในการป้องกันการทุจริต และการปราบปรามการทุจริตที่มีประสิทธิภาพ จึงได้จัดทำโครงการยกระดับธรรมาภิบาลภาคประชาสังคมในระดับการปกครองท้องที่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ต่อเนื่อง เป็นปีที่ 4 เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมที่เท่าทันต่อสถานการณ์ สำหรับใช้ในการปลูกฝังวิธีคิด ปลุกจิตสำนึก ให้มีวัฒนธรรมและพฤติกรรมชื่อสัตย์สุจริต ให้แก่คณะกรรมการหมู่บ้าน เนื่องจากมีความใกล้ชิดและสามารถนำไปถ่ายทอดให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำคลิปวีดิโอเพลง "ความดีอยู่เหนือสิ่งอื่นใด" ซึ่งขับร้อง และแต่งโดยนายสมชาย นิลศรี ศิลปินชาวจังหวัดปัตตานี อดีตแชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์3 เมื่อปี 2556 ดูแลการผลิต โดย สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ อำนวยการสร้าง โดย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ซึ่งมีเนื้อหากล่าวถึง ความภาคภูมิใจของคนไทย ใต้ร่มพระบารมีพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อรวมพลังคนไทยทั่วประเทศ น้อมนำพระราชดำรัส ของพระองค์ท่าน มาเป็นแบบอย่างในการทำความดี โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ฝากให้ ผู้เข้าร่วมประชุม ได้นำเอาเพลงดังกล่าว ไปเผยแพร่ในช่องทางต่างๆ สู่ประชาชน โดยเฉพาะในห้วงปีมหามงคล ที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 และ ยังได้เล่าประสบการณ์ทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ไปรับราชการอยู่เกือบครึ่งชีวิต โดยเฉพาะการผนึกกำลังผู้นำท้องที่ท้องถิ่นและชาวบ้านในตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ในการลงแรง บริจาคทุน สร้างสะพานไม้เจาะบากงขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยคงรูปแบบให้เหมือนกับภาพถ่าย เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2524 ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่บ้านเจาะบากง หมู่ที่ 3 ตำบลปูโยะ และได้เสด็จลงจากรถยนต์พระที่นั่ง และประทับอยู่บนสะพานดังกล่าว เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระองค์ และถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตสู่อนุชนรุ่นหลัง

จังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมประชุมขับเคลื่อนติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของปลัดกระทรวงมหาดไทย ประจำเดือนกรกฎาคม 2567

 

วันที่ 17 กรกฎาคม 2567

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของปลัดกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ 2567 เดือนกรกฎาคม 2567 ณ ห้องประชุมตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) ร่วมกับนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้บริหาร/หน่วยงานส่วนกลาง และจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อติดตามการปฏิบัติงานของส่วนราชการ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบนโยบายแนวทางการดำเนินงานนำไปปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก่อให้เกิดประโยชน์กับทางราชการและประชาชน

ในการนี้ที่ประชุมส่วนกลางได้ติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ อาทิ การจัดระเบียบสังคม การป้องกันและแก้ไขปัญหาหายาเสพติด การดำเนินงานหมู่บ้านยั่งยืน การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนผ่านระบบ ThaiQM การเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยในฤดูฝน แนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดในระยะเร่งด่วน 3 เดือนโดยกองทุนแม่ของแผ่นดิน การดำเนินโครงการขยายผลวิทยากรเพื่อทำหน้าที่ผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่นระดับอำเภอและระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(ครู ข) ผลการทวนสอบโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนของ อปท. ประเทศไทย รอบที่ 3 การดำเนินโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 ช่างไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การจัดการน้ำเสียชุมชน การส่งเสริมโครงการสร้างเสริมสุขภาพเชิงรุกเพื่อลดภาวะคลอดก่อนกำหนด และความก้าวหน้าการดำเนินโครงการลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันของส่วนราชการ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

โดยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ รับผิดชอบงานในหน้าที่อย่าให้บกพร่อง เพื่อให้ประเทศชาติมั่งคง ประชาชนมีความสุข พร้อมกับช่วยกันผลักดันขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการบำบัดทุกข์บำรุงสุขพี่น้องประชาชนได้อย่างยั่งยืน.

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!