วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เวลา 11.00 น.

นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมจัดพิธีมหาพุทธาภิเษกและเทวาภิเษก เหรียญพระบรมธาตุไชยาและพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ซึ่งจะจัดขึ้น ทั้งหมด 3 วาระ ในระหว่างวันที่ 25 – 29 กรกฎาคม 2567 ณ วัดรัตนาราม และ ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี
การประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามความเรียบร้อยของการเตรียมการภารกิจในด้านต่างๆ ที่มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบ เพื่อให้การประกอบพิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากขณะนี้ เหลือเวลาอีกเพียง 10 วันก็จะเป็นพิธีพุทธาภิเษก และเทวาภิเษก วาระที่ 1 เพื่อให้เป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ เข้มขลังและเป็นมงคล อีกทั้งขณะนี้ เหรียญและพระบูชา ได้ผลิตเสร็จเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว พร้อมจะนำเข้าพิธีทั้งหมด อีกทั้งได้เตรียมจัดแสดงนิทรรศการ 109 ปี สุราษฎร์ธานี นามพระราชทาน ที่ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในระหว่างวันที่ 28 – 29 กรกฎาคม 2567 อีกด้วย ทั้งนี้ สำหรับกำหนดการจัดพิธีประกอบด้วย วาระที่ 1 พิธีมหาพุทธาภิเษก และเทวาภิเษก จัดขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ณ อุโบสถวัดรัตนราม หรือวัดแก้ว อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี พิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์ ในช่วงเช้าตั้งแต่ 08.30 น. และ พิธีมหาพุทธาภิเษก และเทวาภิเษก ตั้งแต่เวลา 12.30 น. วาระที่ 2 พิธีเจริญพระพุทธมนต์ จัดขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ณ มณฑลพิธีศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เวลา 21.00 น. และวาระที่ 3 พิธีพุทธาเทวาภิเษก ในวันที่ วันที่ 29 กรกฎาคม 2567 ณ มณฑลพิธีศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. และพิธีมหาพุทธาภิเษก และเทวาภิเษกวัตถุมงคล ตั้งแต่เวลา 12.30 น.

วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.00 น.

นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานประชุมซักซ้อมการเตรียมการชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุมนางยวน ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ด้วยสำนักงบประมาณแจ้งการเตรียมการชี้แจงงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ชั้นกรรมาธิการ โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในการนี้ จังหวัดในฐานะหน่วยรับงบประมาณ
จึงได้จัดเตรียมเอกสารเพื่อประกอบการชี้แจงตามแนวทางและแบบฟอร์มคำชี้แจงงบประมาณฯ พ.ศ. 2568 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินซักซ้อมเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมาธิการฯ ต่อไป

วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.30 น.

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีมอบโฉนดเพื่อการเกษตร 72,000 ฉบับ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรัก หมู่ที่ 2 ตำบลท่าชี อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมกับจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเกษตรกรเข้ารับโฉนดเพื่อการเกษตรในวันนี้ จำนวน 372 ฉบับ

จ่าเอกวันชัย เกิดด้วยทอง ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้รับพระราชทานที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อให้นำไปดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับประชาชน ผู้ยากไร้ โดยปัจจุบันมีที่ดินพระราชทาน จำนวน 5 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดฉะเชิงเทรา นครปฐม นครนายก ปทุมธานี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเมื่อวันที่ 22 และ 29 พฤษภาคม 2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดปทุมธานี เพื่อพระราขทานเอกสารสิทฺสัญญาเช่าที่ดินให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินและพระราชทานพระราชดำรัส ความว่า “ผู้ที่ได้รับมอบที่ดินสำหรับทำกินพร้อมทั้งเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินนั้น อย่างถูกต้อง ครบถ้วนแล้ว ควรจะถือว่าแต่ละคนมีภาระอย่างยิ่งที่จะดูแลรักษาและพัฒนาที่ดินของตนให้เกิดประโยชน์อย่างดีที่สุด ด้วยความตั้งใจจริง อดทน ขยันหมั่นเพียร และซื่อสัตย์สุจริต อยู่ร่วมกันด้วยความเมตตาปรองดอง และยึดมั่นในสามัคคีธรรมให้มั่นคง โดยถือเอาประโยชน์ส่วนรวมเป็นจุดหมายสำคัญอันสูงสุด"

ส.ป.ก. จึงได้ดำเนินงานด้านการปฏิรูปที่ดิน โดยยึดมั่นและน้อมนำแนวทางตามพระราชดำริดังกล่าว และเพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ส.ป.ก. ได้รับปรุงหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน และสิทธิประโยชน์ต่างๆ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตลอดไป.