Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ตรวจติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันที่ 27 ตุลาคม 2565  เวลา 08.45 น. ณ อาอากาศยานกองบิน 7

พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ ตรวจติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทหาร ตำรวจและข้าราชการเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับ จากนั้น ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในภาพรวมมีทั้งสิ้น 38 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ 26 โครงการ ด้านสิ่งแวดล้อม 1 โครงการ ด้านส่งเสริมอาชีพ 3 โครงการ ด้านคมนาคม/สื่อสาร 3 โครงการ ด้านสวัสดิการสังคม/การศึกษา 4 โครงการและด้านอื่นๆ 1 โครงการ โดยมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวน 4 โครงการ ซึ่งองคมนตรี ได้สอบถามรายละเอียดการดำเนินโครงการเพิ่มเติม พร้อมให้ข้อเสนอแนะแนวทางขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนสูงสุด

ในช่วงบ่าย พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรีและคณะ เดินทางลงพื้นที่ ฝายบ้านปลายน้ำตก หมู่ 17 ตำบลประสงค์ อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ สำหรับฝายดังกล่าว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ซึ่งกรมชลประทานได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ สร้างเป็นฝายทดน้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 2.5 เมตร ยาว 14 เมตร ความจุ 40,000 ลูกบาศก์เมตรพร้อมระบบส่งน้ำ ความยาว 8,640 เมตรพร้อมด้วยบ่อพักน้ำ อีก 3 จุด โดยก่อสร้างแล้วเสร็จแล้วเปิดใช้งานเมื่อปี 2551 สามารถส่งน้ำสนับสนุนการอุปโภคบริโภคให้กับราษฎรในพื้นที่บ้านคลองรอก หมู่ 15 และบ้านท่าใหม่ หมู่ 17 ตำบลประสงค์ ได้ใช้ประโยชน์ 417 ครัวเรือน หรือเกือบ 1400 คน ทั้งยังสนับสนุนพื้นที่การเกษตรประมาณ 800 ไร่อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี พร้อมกับได้เยี่ยมพบปะกับประชาชน ที่ได้ใช้ประโยชน์จากฝายดังกล่าว

จากนั้นองคมนตรีและคณะ ได้ลงพื้นที่ หมู่ที่ 9 ตำบลสมอทอง อำเภอท่าชนะ ซึ่งเป็นพื้นที่ เตรียมก่อสร้างโครงการฝายบ้านเขาเพ-ลาและสถานีสูบน้ำพร้อมระบบท่อส่งน้ำ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รับโครงการดังกล่าวไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ให้มีน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตรในช่วงหน้าแล้ง
โดยลักษณะโครงการจะเป็นฝ่ายคอนกรีตขนาดสูง 2.5 เมตรยาว 63 เมตรความจุ 63,000 ลูกบาศก์เมตรพร้อมด้วยสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าและระบบท่อส่งอาคารประกอบความยาว 4,170 เมตรและบ่อพักน้ำ 2 แห่งซึ่งขณะนี้เกษตรราษฎรได้ยินยอมอุทิศที่ดิน สปก.ให้แล้ว ส่วนพื้นที่โครงการ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าชนะอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุญาตของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้านงบประมาณก่อสร้าง กรมชลประทาน อยู่ระหว่างขอสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งหากสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถส่งน้ำสนับสนุนการอุปโภคบริโภคให้กับราษฎรในตำบลสมอทองได้ประมาณ 1,285 ครัวเรือน หรือประมาณ 4,465 คน ทั้งยังสนับสนุนพื้นที่การเกษตรให้ราษฎรในพื้นที่บ้านห้วยเคี่ยมหมู่ที่ 22 และบ้านน้ำโฉ หมู่ที่ 25 ตำบลประสงค์ อีกด้วย

สมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ติดตามประเด็น SEC การพัฒนาสนามบินสุราษฎร์ธานี และโครงการขยายถนนสายสุราษฎร์ธานี - ตะกั่วป่า

วันที่ 26 ตุลาคม 2565  เวลา 13.30 น.  ณ ห้องประชุมเมืองคนดี ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ คนที่หนึ่งเป็นหัวหน้าคณะเดินทาง นำคณะกรรมการฯ ลงพื้นที่ในโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาทางคณะกรรมการได้รับฟังการบรรยายสรุปรายงานความก้าวหน้าโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นอีกสถานที่ในการพัฒนาเศรษฐกิจของภาคใต้ เนื่องจากพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตลำดับต้นๆของประเทศ และสมควรเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาท่าอากาศยานในการรองรับนักท่องเที่ยวตามความต้องการของผู้ใช้บริการและครอบคลุมจำนวนผู้ใช้บริการในพื้นที่ใกล้เคียง

ขณะที่ในช่วงบ่ายนั้นทางคณะกรรมการฯ ได้รับฟังการบรรยายสรุปรายงานความก้าวหน้าและปัญหาข้อขัดข้องในโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้(Southern Economic Corridor : SEC) โดยมีกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช และผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมเสนอรายงานความก้าวหน้า

สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำเสนอรายงานความก้าวหน้าปัญหาและอุปสรรคที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการการพัฒนา พื้นที่เศรษฐกิจ อาทิ โครงการการขับเคลื่อนและพัฒนาปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปสู่ Oli Palm City การพัฒนาเมืองสมุนไพร Herbel city โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิ โครงการก่อสร้างท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ เพื่อทราบปัญหาและอุปสรรคในพื้นที่เพื่อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจต่อไป

การประชุมคณะกรรมการพิจารณากำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษระดับจังหวัด สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ.2566 และ การประชุมคณะกรรมการพนักงานเทศบาล จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ก.ท.จ.สฎ.) ครั้งที่ 10/2565

วันที่ 25 ตุลาคม 2565 

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปฏิบัติภารกิจดังนี้
เวลา 9.30 น. นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพิจารณากำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษระดับจังหวัด สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ.2566 มีสำนักงานที่ยื่นขอที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษ จำนวน 10 แห่ง ณ ห้องประชุมสำนักงาน คลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เวลา 13.30 น. นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพนักงานเทศบาล จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ก.ท.จ.สฎ.) ครั้งที่ 10/2565 ณ ห้องประชุมตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวเด็กชายวัย 4 ขวบที่จมน้ำเสียชีวิตจากอุทกภัย พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ ห่วง ช่วงน้ำหลาก พ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลบุตรหลานใกล้ชิด ไม่อยากให้เหตุการณ์ซ้ำรอย

วันที่ 25 ตุลาคม 2565 เวลา18.10น. ณ ศาลาหมู่บ้าน บ้านบางหยดหมู่ที่ 8 ตำบลอิปัน อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของเด็กชายภคิน นวลแก้ว หรือ น้องไอซ์ อายุ 4 ปี ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ จากเหตุอุทกภัยเ มื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีนายสุพัชรพงษ์ วรประดิษฐ์ นายอำเภอพระแสง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจน พ่อแม่และญาติของผู้เสียชีวิตร่วมต้อนรับ

โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้จุดธูปเคารพศพ และพูดคุยให้กำลังใจครอบครัวของเด็กผู้เสียชีวิต จากนั้น ได้มอบเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 29,700 บาท

ในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบเงินช่วยเหลือส่วนตัวอีกจำนวนหนึ่งให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย

นอกจากนี้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานียังได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ อีก 10,000 บาท รวมถึงชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอพระแสง ได้มอบเงินช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่งด้วยเช่นกัน

หลังจากเสร็จพิธี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้พูดคุยกับหัวหน้าส่วนราชการ และผู้นำท้องที่ท้องถิ่น เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ ซึ่งล่าสุดพบว่า ระดับน้ำได้ลดลงต่อเนื่อง บางพื้นที่ได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว หลังจากฝนหยุดตกมา 3 วัน แต่ยังคงเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเฝ้าติดตามสถานการณ์สภาพอากาศด้วยความไม่ประมาทและฝากเตือนไปยังพ่อแม่ผู้ปกครอง ดูแล บุตรหลานอย่างใกล้ชิดในช่วงที่มีน้ำหลากหลีกเลี่ยงหรืองดการให้เด็กเล่นน้ำ และอยากให้การสูญเสียครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!